คำต่อคำ"ศิวรักษ์"เปิดใจ"ผมรู้สึกว่าผมเป็นเหยื่อ." เราคงไม่สามารจัดฉากนายคำรบได้

วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เวลา 21:30:18 น. มติชนออนไลน์

คำต่อคำ "ศิวรักษ์"เปิดใจ"พ้นคุกเขมร"

"ผมรู้สึกว่าผมเป็นเหยื่อ...."?

ที่ มา - นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย บริษัท แคมบอเดีย ทราฟฟิก เซอร์วิส หรือ แคทส์ เปิดใจหลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์นโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชา กรณีถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกฐานจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม

-----------------------

ถาม มีการกล่าวหาว่า การกระทำของคุณศิวรักษ์ เป็นการจัดฉากทางการเมือง โดยมีพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง

เรื่อง แบบนี้ คงไม่มีใครไปจัดฉาก คงไม่มีใครเอาชีวิตลูกไปเล่นตลก และคงไม่มีใครอยากให้ลูกของตัวเองเข้าไปอยู่ในคุก ผมรู้สึกว่าผมเป็นเหยื่อ แต่ในแง่ไหนผมไม่ทราบ

ถาม จากการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไรบ้าง

ท่านก็ถามสารทุกข์สุกดิบว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างไร เกิดอะไรขึ้น ผมก็เล่าให้ท่านฟัง ท่านก็รับฟังและก็เข้าใจ

ถาม มีการระบุว่านายคำรบ ให้ขอข้อมูลตารางการบิน

เรื่องนี้ก็ทราบว่ามันเกี่ยวกับนายคำรบ ทางที่ดีหากนายคำรบออกมาพูดความจริง ชี้แจง ก็คงจะทราบว่า ความจริงเป็นอย่างไร

ถาม จนถึงขณะนี้ได้คุยกับนายคำรบ

ยังไม่ได้มีการติดต่อมาเลยครับ

ถาม อยากพูดอะไรกับนายคำรบ

ก็ น่าจะออกมาพูดอะไรหน่อย อย่างน้อยขอให้โทร.มาคุยกับแม่ผม (นางสิมาลักษณ์ ณ นครพนม) อธิบายว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร เพราะแม่ผมทราบข่าวใหม่ๆ ก็คงเครียด

ถาม ตอนที่นายคำรบโทร.มาขอข้อมูล ได้บอกหรือไม่ว่าจะเอาไปทำอะไร

ตอนนั้นไม่ได้บอก เขาโทร.มาถามตอนเช้า ตอนที่เครื่องบินส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงจอดที่กัมพูชา

ถาม ตั้งแต่ทำงานมาเคยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย เคยมาขอข้อมูลหรือไม่

ไม่ เคยครับ ผมรู้จักเขา (นายคำรบ) ไม่ได้รู้จักในหน้าที่การงานที่เขาทำ แต่รู้จักกันผ่านๆ จากทางข้างนอก เพราะนายคำรบ เป็นรุ่นพี่ของเพื่อน รู้จักกันมานาน 2 ปีแล้ว ถ้ามีโอกาส ผมก็อยากจะถามเขาเหมือนกัน ว่าเอาข้อมูลไปทำอะไร

ถาม มีแนวโน้มที่จะฟ้องร้องกระทรวงการต่างประเทศของไทยหรือไม่

ยัง ไม่ทราบรายละเอียด ขอคิดดูก่อน แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ ก็ให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด แต่ผมว่า ก็ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา กำลังมีปัญหากัน หากรัฐบาลไทยออกหน้าแบบเต็มๆ ผมคงติดคุกอีกนาน

ถาม การเข้ามาช่วยเหลือของคุณทักษิณ ถูกมองว่าเป็นเกมทางการเมือง

ผม คงจะไปห้ามฝ่ายที่คิดอย่างนั้นไม่ได้ แต่ทางผมมอง และมุมมองของคนที่เข้าใจ ก็จะเข้าใจว่า แม่คงอยากจะช่วยลูกทุกวิถีทาง คือไม่ใช่ว่าแม่ผมเข้าไปหาพรรคเพื่อไทยให้ช่วยเลย เราก็ไปหากระทรวงการต่างประเทศแล้วหลายครั้ง ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยผม

ถาม มีเงื่อนไข ข้อตกลงอะไรพิเศษกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่

ไม่ทราบ ก็คงไม่มีครับ

ถาม ในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ มีบุญคุณจะตอบแทนบุญคุณอย่างไร

ตอนนี้ที่ทำได้คงจะพูดคำว่า ขอบคุณ ผมขอบคุณท่านไปแล้ว

ถาม การช่วยเหลือของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลายเป็นประเด็นการเมืองในประเทศไทยไปแล้ว

อันนี้ผมไม่ทราบ ว่าจะเป็นประเด็นอะไรที่ใหญ่โตหรือไม่ เพราะข้อมูลต่างๆ ทางสื่อมวลชนก็นำเสนอไปเยอะพอสมควรแล้ว

ถาม ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองใช่หรือไม่

ใช่ครับ

ถาม แล้วศาลกัมพูชาตัดสินไปอย่างนั้นมาจากสาเหตุใด

สาเหตุ หลักที่เป็นปัญหาคือ คนที่โทร.มาคือนายคำรบ และนายคำรบเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ เป็นเลขานุการเอก ทางรัฐบาลกัมพูชาก็เลยโยง เลยมองไปเป็นประเด็นว่านายคำรบ มีเจตนาจะปองร้ายอะไรหรือเปล่า แต่ตอนที่คุยกับนายคำรบ ผมไม่ได้สนใจในประเด็นดังกล่าวเลย เพื่อนผมก็มาถามข้อมูลการบินของท่านทักษิณ ซึ่งผมก็มองเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ทุกคนก็อยากจะทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไรบ้าง

ถาม การสอบถามตารางการบินหลังจากเครื่องบินลงแล้วนานเท่าไหร่

เขา (นายคำรบ) ถามว่าเป็นเครื่องของคุณ ดร.ทักษิณ หรือเปล่า ผมบอกเลยว่า เท่าที่ผมทราบมีเครื่องบินวีไอพีลงจอด แต่ผมไม่ทราบว่ามีใครอยู่ข้างใน แต่เป็นการบอกหลังจากเครื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ลงจอดแล้วนาน 20 นาที

ถาม ทำไมไม่เลือกต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด

ก็ได้ปรึกษาทางแม่และทนายความ หากจะสู้ต่อ ก็อาจจะใช้เวลาเป็นปีที่จะต้องถูกจองจำ

ถาม รู้สึกอย่างไรกับการถูกกล่าวหาว่า จัดฉาก

คน ที่คิดไม่รู้เอาอะไรมาคิด เพราะชีวิตคนอยู่ในคุกไม่ใช่เรื่องตลก ถ้าเป็นลูกเป็นหลานคุณมีปัญหาอยู่ต่างแดน ถูกจับติดคุก คุณจะไม่หาทางช่วยเหลือลูกตัวเองเลยหรือ แต่ที่ผมทราบคือแม่ผม พยายามติดต่อทุกทาง ทั้งทางกระทรวงการต่างประเทศ และทุกฝ่ายที่มีโอกาสช่วยผมได้

ถาม เป็นการช่วยสร้างข่าวให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่

ไม่ จำเป็น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีข่าวประจำอยู่แล้ว ส่วนที่มีข่าวว่าพ่อผมกับท่านทักษิณ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผมไม่ทราบ เพราะเท่าที่ทราบมา ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน

ถาม เป็นเหยื่อของเกมการเมืองหรือไม่

ก็แล้วแต่คนจะมอง ผมก็คงเป็นเหยื่อ แต่ในแง่ไหน ด้านไหน หรืออะไร ก็คงต้องคิดกัน

ถาม อยากให้นายคำรบมารับผิดชอบอะไรบ้าง

อยากให้ออกมาพูดความจริงบ้างว่ามันเป็นอย่างไร โทร.หาผมหรือเปล่า แล้วผมจัดฉากหรือไม่ แล้วจะได้ทราบกัน

ถาม แต่กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่า สิ่งที่นายคำรบทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

ถูก ต้องในแง่ไหนก็ต้องถามกระทรวงการต่างประเทศ คือหลังจากเขาโทร.หาผมแล้ว เขามีเจตนาอย่างไร หรือโทร.หาใครต่ออีก กี่ครั้ง อย่างไรบ้าง ตรงนั้นผมไม่รู้

ถาม จะกลับไปทำงานที่กัมพูชาอีกหรือไม่

ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร ขออยู่กับครอบครัวก่อน

ถาม จะบวชเมื่อไหร่

ตั้งใจว่าจะบวชอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนด

ถาม แวบแรกที่เจอ พ.ต.ท.ทักษิณรู้สึกอย่างไร

ตื่นเต้น

ถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่ามีกรรมเชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ

มีกรรมเพราะเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องของท่าน (พ.ต.ท.ทักษิณ)

ถาม คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีความผิดหรือไม่

ผมคิดว่า ผมไม่ได้ทำผิด แต่อาจจะพลาดไป คือผมไม่ได้มีเจตนาร้ายอยู่แล้ว ผมเข้าใจว่ามันไม่ผิด

ถาม ตอนใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำกัมพูชา เป็นปกติใช่หรือไม่

ทางกัมพูชาให้การดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะคงกลัวว่าจะมีคนมาทำอะไรอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกสบายอะไร

ถาม คิดว่าตัวเองเป็นสปายอย่างที่ถูกกล่าวหรือไม่

ผม ไม่ใช่สปาย เพราะถ้าเป็นสปายทางการกัมพูชาคงจับผมไม่ได้ และคงไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรให้มีหลักฐานทิ้งแล้ว และสมัยนี้คงไม่มีสปายแล้ว แต่เรื่องนี้อยู่ที่ดุลพินิจ คดีมันตัดสินไปแล้ว ผมไม่อยากพูดอีก และกษัตริย์กัมพูชาก็ทรงให้ความเมตตา

ถาม หน่วยงานที่ดูแลจะต้องเกี่ยวข้องกับตารางการบินโดยตรงเลยหรือไม่

(นิ่งคิด) ก็คล้ายๆ กับวิทยุการบินของไทย

ถาม ข้อมูลที่บินเข้าออกประเทศกัมพูชา เป็นความลับหรือไม่

เราจะรู้เฉพาะเครื่องบินที่บินเข้า บินออก แต่ไม่รู้ว่ามีใครอยู่ข้างในหรือไม่อย่างไร เพราะมันไม่ใช่ส่วนที่บริษัทผมเข้าไปรับผิดชอบ

ถาม ถ้าตารางการบินที่เป็นชั้นความลับจะเป็นลักษณะใด

ก็คงต้องเก็บให้มิดชิด และคนที่จะดูได้ จะต้องมีหน้าที่เฉพาะที่จะดู และคงไม่สามารถนำออกมาได้ง่ายๆ

ถาม ถูกมองว่าร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อทำร้ายประเทศไทย

ผม ไม่จำเป็นต้องทำร้ายประเทศไทย เพราะตอนอยู่ในศาลผมก็ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของข้อกฎหมายของประเทศกัมพูชา และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

-----------------------------------

นางสิมาลักษณ์ ณ นครพนม
มารดานายศิวรักษ์

"ยัง ไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้จะทำอะไร แล้วแต่ลูกจะตัดสินใจ แต่จะอยู่กรุงเทพฯสักวันสองวันแล้วจะกลับ จ.นครราชสีมา ส่วนจะกลับไปกัมพูชาหรือไม่ สมเด็จฯฮุน เซน ท่านก็ยินดีที่จะให้กลับไปอยู่ในกัมพูชาต่อ เพราะท่านเรียกศิวรักษ์ว่าหลานทุกคำเรียก และบอกด้วยว่ายินดีหากศิวรักษ์จะกลับไปทำงานในกัมพูชา ยินดีต้อนรับเสมอ"

"และ ขอร้องว่า อย่าพยายามกล่าวหาว่าเราจัดฉาก เพราะเราคงไม่สามารถไปจัดฉากนายคำรบได้ ที่สำคัญแม่เป็นใคร อายุเท่าไหร่ ถึงจะยอมให้พวกเขามาจัดฉากให้"

ถาม คิดว่าตัวเองจะตกเป็นหมากของใครบางคนหรือไม่?

ไม่ ทราบว่า เป็นหมากเป็นเกมของใครบางคน แต่ทุกวันนี้ ครอบครัวเราไม่เคยคิดร้ายกับใคร มันอาจจะเป็นความพลาดพลั้งไปที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

ถาม การเอาคนอื่นมาช่วยลูก ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลหรือไม่?

ไม่ เพราะรัฐบาลก็ช่วยตั้งแต่แรก แต่เพราะแม่เครียดมาก คิดว่าปัญหาระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ อาจจะเป็นอุปสรรค หากเดินตามทางที่รัฐบาลทำ และแม่ก็ยอมไม่ได้ที่จะต้องให้ลูกของแม่อยู่ตรงนั้นเป็นระยะเวลานาน จึงเลือกที่จะใช้หนทางที่คิดว่าจะช่วยลูกออกมาได้โดยเร็วที่สุด จึงขอยอมรับผิดไปเลยดีกว่า เพื่อทุกอย่างจะได้ยุติเร็วขึ้น ซึ่งการยอมรับผิดของเรา ไม่ได้ผิดตามกฎหมายไทย

ถาม หากนายคำรบยังไม่ชี้แจงใดๆ ทางครอบครัวจะดำเนินการอย่างไร

เคยบอกไปแล้วว่า ลูกผู้ชายหรือสุภาพบุรุษ ควรที่จะออกมาพูดความจริง

ถาม หากวันนี้ไม่มีพรรคเพื่อไทย คิดว่าลูกชายจะรอดหรือไม่

ไม่รอด

เรื่องจากปก จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 17 ธันวาคม 2009

บัวแก้วปิดปาก“คำรบ”ข้าราชการไม่มีสิทธิพูด

“กษิต” ร่อนแถลงการณ์แสดงความยินดีครอบครัว “ศิวรักษ์” ได้รับอิสรภาพ ยืนยันไม่เคยสั่ง “คำรบ” จารกรรมข้อมูลการบิน ย้ำเป็นการทำหน้าที่ปรกติและไม่มีนโยบายให้ข้าราชการระดับล่างชี้แจงผ่าน สื่อ “อภิสิทธิ์” ยันตารางการบินไม่ใช่ข้อมูลลับ ซัดศาลกัมพูชามุ่งปกป้อง “ทักษิณ” เกินเหตุ พร้อมจี้กัมพูชาชี้แจงดักฟังโทรศัพท์ เลขาฯรัฐมนตรีต่างประเทศท้าเพื่อไทยหากอยากขยายความให้ตัดคนไม่เกี่ยว ข้องออกแล้วมาชนกับรัฐบาลโดยตรง

นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย และครอบครัวที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา โดยยืนยันว่าที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่เป็น กรณีพิเศษในทุกขั้นตอน

แถลงการณ์ยัน “คำรบ” ทำตามหน้าที่

แถลงการณ์ ย้ำว่าเคารพในการตัดสินใจของครอบครัวนายศิวรักษ์ที่เปลี่ยนทนายความ และขอให้พรรคเพื่อไทยช่วยเหลือโดยไม่เคยกล่าวหาว่าเป็นการจัดฉาก นอกจากนี้ยังยืนยันว่าไม่ได้สั่งการให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ไปจารกรรมข้อมูลตารางการบิน นายคำรบเพียงแต่ทำตามหน้าที่เพื่อยืนยันการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้ร้ายหนีคดี ซึ่งนายคำรบก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ไม่มีนโยบายให้ “คำรบ” ชี้แจงผ่านสื่อ

“กระทรวงการต่างประเทศไม่มีนโยบายให้นายคำรบออกมาชี้แจง เพราะทั้งนายคำรบและนายศิวรักษ์ต่างก็เป็นเหยื่อทางการเมืองเท่านั้น”
แถลงการณ์ของนายกษิตระบุ

ที่ รัฐสภา คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เชิญนายกษิตและนายคำรบมาชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องการจารกรรมข้อมูลการบิน ของอดีตนายกรัฐมนตรีจนทำให้มีปัญหากับกัมพูชา แต่นายกษิตและนายคำรบไม่ได้เดินทางไปชี้แจงตามคำเชิญ โดยส่งนายอิศร ปกมนตรี เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง และ น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล เป็นตัวแทนไปชี้แจง

อ้าง “คำรบ” ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน

นาย ธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจทั้งนายคำรบและนายศิวรักษ์ที่ต่างก็ตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ในส่วนของนายคำรบก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เช่นกัน เพราะถูกขับออกจากัมพูชาภายใน 48 ชั่วโมง และไม่มีความจำเป็นที่นายคำรบต้องออกมาชี้แจงใดๆ เพราะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิพูดกับสื่อ คนที่จะพูดกับสื่อได้ต้องเป็นระดับผู้บริหารเท่านั้น

“กระทรวงการ ต่างประเทศไม่เคยโต้แย้งคำพูดของนายศิวรักษ์ และยอมรับว่านายคำรบโทรศัพท์ไปขอข้อมูลการบินจากนายศิวรักษ์จริง แต่ถือเป็นการทำหน้าที่ปรกติไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย” นายธานีกล่าว

กรรมาธิการฉุน “กษิต” เมินชี้แจง

นาย ต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ กล่าวว่า คาดมาตั้งแต่ต้นแล้วนายกษิตกับนายคำรบจะไม่มาชี้แจงด้วยตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้ได้เชิญนายกษิตมาชี้แจงต่อกรรมาธิการหลายเรื่องแต่ก็ไม่เคย มาแม้แต่ครั้งเดียว
“ผมจะส่งหนังสือเชิญไปอีกครั้ง หากยังไม่มาก็ต้องประณามเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้พฤติกรรมของนายกษิตว่าไม่ ให้ความสำคัญกับระบบรัฐสภาและการตรวจสอบ” นายต่อพงษ์กล่าว

ยืนยันขอข้อมูลจาก “ศิวรักษ์” จริง

นาย ต่อพงษ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังฟังการชี้แจงจากตัวแทนของนายกษิตและนายคำรบ ว่า ตัวแทนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไม่สามารถชี้แจงได้ในหลาย ประเด็น เพราะเป็นข้าราชการไม่อยากตอบในเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองจึงต้องเชิญนายก ษิตมาอีกครั้ง ส่วนการชี้แจงครั้งนี้มีการยืนยันว่านายคำรบได้ขอข้อมูลการบินจากนายศิว รักษ์จริง

จี้ “กษิต” แจงนโยบายเพื่อนบ้าน

“คนที่มาตอบแทนก็ บอกอะไรได้ไม่ชัด เพราะบอกว่าแค่ว่านายคำรบถามนายศิวรักษ์ว่าเครื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณลงหรือยังเท่านั้น พอถามรายละเอียดก็บอกว่าไม่ทราบ ซึ่งทำให้เสียเวลา นายคำรบควรจะมาตอบด้วยตัวเอง รวมทั้งนายกษิตด้วย เพราะเราอยากฟังว่ามีแนวคิดและนโยบายต่อเพื่อบ้านอย่างไร เพราะถูกวิจารณ์ค่อนข้างมากว่าไม่เคารพเพื่อนบ้าน จึงไม่อยากให้ข้าราชการตกเป็นเหยื่อ” นายต่อพงษ์กล่าว

“มาร์ค” ชี้ศาลเขมรปกป้อง “ทักษิณ”

ที่ สโมสรกองทักบก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามติดตามการให้สัมภาษณ์ของนายศิวรักษ์ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดออกมาก็สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าอะไรเป็นอะไร เชื่อว่านายศิวรักษ์ไม่มีเจตนาทำความผิด และสิ่งที่ศาลกัมพูชาตัดสินก็พูดแต่เรื่องผลกระทบที่จะเกิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการกระทำของนายศิวรักษ์

ยืนยันรัฐบาลมีข้อมูลอยู่แล้ว

“ไม่ มีใครอยากเจอกับสถานการณ์ที่นายศิวรักษ์เจอ ผมจึงไม่เชื่อว่านายศิวรักษ์จะไปมีส่วนเกี่ยวข้องอะไร แต่สังคมควรมองย้อนกลับไปว่าเรื่องแบบนี้ควรเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ควรเกิดขึ้นปัญหาเกิดมาจากใคร เพราะเท่าที่ดูนายศิวรักษ์ก็ทำหน้าที่ตามปรกติแต่ศาลไปบอกว่านี่คือความลับ ซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นความลับอะไร เพราะที่อ้างว่าเป็นความลับนั้นรัฐบาลไทยก็มีอยู่แล้วจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ จะต้องไปกระทำความผิด ที่ศาลกัมพูชาตัดสินก็บอกว่าจะเป็นอันตรายกับ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น” นายอภิสิทธิ์กล่าวพร้อมเรียกร้องให้กัมพูชาชี้แจงกรณีมีข่าวว่า ได้ข้อมูลการพูดคุยระหว่างนายคำรบกับนายศิวรักษ์จากการดักฟังโทรศัพท์ เพราะจะกระทบกับภาพลักษณ์ของกัมพูชาในสายตาชาวโลก

โฆษก “มาร์ค” ยุติขยายผล

นาย เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายควรยุติ ไม่นำเรื่องนายศิวรักษ์มาขยายความเพื่อหาประโยชน์ทางการเมืองโดยเฉพาะพรรค เพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาสามารถช่วงชิงพื้นที่ข่าวได้ตามเป้าหมายแล้ว

“เรา เข้าใจว่านายศิวรักษ์ไม่ได้เป็นตัวการจัดฉากเรื่องที่เกิดขึ้น เพียงแต่ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ที่คนบางกลุ่มใช้เป็นเครื่องมือ เพราะไม่เคยเห็นนักโทษจารกรรมข้อมูลที่กระทบต่อความมั่นคงรายใดได้รับ เกียรติเท่านายศิวรักษ์ที่มีรถเบนซ์ไปรับถึงเรือนจำ นายกกัมพูชาเปิดบ้านต้อนรับอย่างอบอุ่น แถมยังให้กลับเข้าไปทำงานในกัมพูชาได้อีก ทั้งที่ปรกติจะต้องถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศ แค่นี้ก็คงจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร” นายเทพไทกล่าวและว่า เรื่องนี้รัฐบาลไม่จำเป็นต้องขอโทษครอบครัวนายศิวรักษ์หรือขอบคุณรัฐบาล กัมพูชา เพราะหากมองย้อนไปจะเห็นว่า หาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ไม่เดินทางไปกัมพูชา และรัฐบาลกัมพูชาไม่แต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น ต้นเหตุที่แท้จริงจึงอยู่ที่ พล.อ.ชวลิตและ พ.ต.ท.ทักษิณ

“สุเทพ” อ้างถูกดักฟังโทรศัพท์ทุกวัน

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่กัมพูชาจะได้ข้อมูลจากการดักฟังโทรศัพท์ เพราะในบ้านเราก็มีขบวนการดักฟังอยู่ ซึ่งตนเองก็ถูกดักฟังโทรศัพท์อยู่ทุกวัน ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาต้องไปดูที่จุดเริ่มต้นว่ามาจากไหนก็ต้องไปแก้ที่ จุดนั้น

เผย “คำรบ” อยากคุย “ศิวรักษ์”

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า นายคำรบจะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสังคมหรือไม่ให้เป็นการตัดสินใจของนาย คำรบเอง ส่วนตัวเห็นว่าจะชี้แจงหรือไม่ก็ไม่มีปัญหา เพราะทุกอย่างชัดเจนอยู่แล้วไม่มีใครติดใจสงสัยในตัวนายคำรบ แต่เข้าใจว่านายคำรบคงอยากติดต่อกับนายศิวรักษ์ในฐานะเพื่อนเพื่อทำความเข้า ใจ เพื่อไม่ให้ปัญหาลุกลามบานปลายออกไป

ให้ดู “คำรบ” ทำผิดกฎหมายหรือไม่

“ผม อยากให้โฟกัสที่ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ผิดกฎหมายหรือไม่ มากกว่าที่จะให้เน้นกันที่เรื่องใครพูดอะไร มีการยกหูโทรศัพท์หากันหรือไม่ จริงๆแล้วอยากให้หยุด หากไม่หยุดก็จะต้องพิสูจน์กันว่าใครจัดฉากเรื่องนี้ นำเอาความทุกข์ยากของประชาชนมาสร้างคะแนนนิยม กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรในตัวนายคำรบเพราะได้รายงาน ทุกอย่างชัดเจนแล้ว และตรงกับที่นายศิวรักษ์พูดคือสอบถามแค่ว่าเครื่องบินลงหรือยัง ไม่ได้สอบถามเรื่องตารางการบิน แต่กลับมีความพยายามพูดกันว่าโจรกรรมข้อมูลการบิน ขอยืนยันว่ารัฐบาลมีตารางการบินอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปขอจากใคร” นายชวนนท์กล่าว

เปิดที่มาตารางการบิน “ทักษิณ”

นายชวนนท์ชี้ แจงว่า ตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะเดินทางมายังประเทศกัมพูชาเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2552 เราได้รับแจ้งจากสำนักกำกับกิจการขนส่งทางอากาศ กรมการขนส่งทางอากาศ ที่ได้รับมาจากบริษัทตัวแทนเครื่องบินที่ พ.ต.ท.ทักษิณโดยสารมาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย. จึงยืนยันได้ว่าตารางการบินไม่ใช่ความลับ แต่ที่ผ่านมาไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้เพราะไม่มีความจำเป็น และไม่มีเหตุผลว่ารัฐบาลต้องเอาเอกสารราชการทุกอย่างมาเปิดเผยเพราะคนๆเดียว

เชื่อมีคนยุยง “ศิวรักษ์” ฟ้องร้อง

นาย ชวนนท์ไม่เชื่อว่าครอบครัวนายศิวรักษ์จะเป็นต้นคิดที่จะฟ้องร้องกระทรวงต่าง ประเทศ และนายคำรบคงมีคนไปยุยง ซึ่งไม่ว่าครอบครัวนายศิวรักษ์จะดำเนินการอย่างไรกระทรวงการต่างประเทศก็ พร้อมชี้แจงและทำความเข้าใจ เพราะเราหวังดีกับคนไทยทุกคนที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างแดน
นายชวนนท์ยังชี้ แจงกรณีที่นายกษิตไม่ไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ด้วยตัวเองว่า เป็นเพราะติดภารกิจในต่างประเทศ ส่วนกรณีที่อ้างว่ามีข้อมูลจากการดักฟังโทรศัพท์นั้นจะต้องมีการตรวจสอบข้อ เท็จจริง เพราะหากทำจริงเท่ากับว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและมติของสหประชาชาติ

ท้าเพื่อไทยเจอกับรัฐบาลโดยตรง

“ผม เชื่อว่ากัมพูชาไม่น่าจะดักฟังโทรศัพท์ เป็นเพียงข้ออ้างของพรรคเพื่อไทย แต่เพื่อความชัดเจนจะทำหนังสือสอบถามกัมพูชาในเรื่องนี้ หากพรรคฝ่ายค้านอยากจะต่อเรื่องนี้ให้ยาวออกไปขอให้ตัดคนที่ไม่เกี่ยว ข้องออก เช่น นายคำรบ ครอบครัวนายศิวรักษ์ แล้วมาเจอกับรัฐบาลโดยตรง” นายชวนนท์กล่าว

เรื่องจากปก จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ประจำวัน พุธ ที่ 16 ธันวาคม 2009

ประชาธิปัตย์พลิกลิ้น

ไม่เคยกล่าวหา“สิมารักษ์-ศิวรักษ์”จัดฉากสร้างฮีโร่

พรรค ประชาธิปัตย์เปลี่ยนท่าทีฉับพลันปฏิเสธไม่เคยกล่าวหา “สิมารักษ์-ศิวรักษ์” ร่วมจัดฉากสร้างฮีโร่ แต่ยังเชื่อเป็นการดำเนินการของ “ทักษิณ-บิ๊กจิ๋ว” เบี่ยงประเด็นให้สอบพรรคเพื่อไทยดักฟังโทรศัพท์เพราะเป็นต้นตอเปิดเผยข้อมูล จารกรรมตารางบิน “สุเทพ” ตัดบทขอร้องทุกฝ่ายเลิกพูดเรื่องจัดฉาก “ปณิธาน” อ้าง “คำรบ” พยายามติดต่อ “ศิวรักษ์” แล้วแต่ไม่รู้คุยกันหรือยัง “สิมารักษ์” สวนทันควันถ้าโทร.มาก็ได้คุยกันแล้ว ฝากถึงอดีตเลขานุการเอกสถานทูตไทยลองไปติดคุกดูสักคืนจะทนได้หรือไม่

วัน ที่ 15 ธ.ค. 2552 นางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการวิจารณ์ว่าเรื่องที่ลูกชายถูกจับเป็นการจัด ฉาก เพราะลูกชายได้รับความบอบช้ำทางจิตใจมาพอสมควรแล้ว อย่าทำร้ายกันให้มากไปกว่านี้

ท้า “คำรบ” ลองไปติดคุกดูสักคืน

“คน ที่ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ว่าเป็นการจัดฉากแสดงว่าคนที่พูดก็เป็นคนที่สร้าง เรื่องเก่ง และไม่สบายใจที่มีคนไปพูดออกทีวี.ว่าบิดาของนายศิวรักษ์มีความเกี่ยวพันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะบิดานายศิวรักษ์นั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว ซึ่งดิฉันและลูกไม่เคยรู้จักกับ พ.ต.ท.ทักษิณมาก่อน” นางสิมารักษ์กล่าวและว่า ขออโหสิกรรมให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ที่เป็นคนโทรศัพท์ไปหาลูกชายจนเป็นเหตุให้ถูกจับ แม้ว่าจะไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆก็ขอให้จบกันแค่นี้ แต่อยากให้นายคำรบลองไปติดคุกดูสัก 1 วัน ดูว่าจะทนได้เหมือนกับนายศิวรักษ์หรือไม่

ยืนยันไม่เคยได้รับการติดต่อ

“ที่ นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่านายคำรบพยายามติดต่อกับนายศิวรักษ์ตลอดหลังทราบว่ากลับมาถึงเมืองไทย นั้น จริงๆไม่มี คนอย่างนายคำรบหากคิดจะติดต่อจริงคงไม่ใช่เรื่องยาก” นายสิมารักษ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรครู้สึกเสียใจที่คนในรัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์มองว่าการช่วยเหลือนายศิว รักษ์เป็นการจัดฉาก ทั้งที่พรรคเข้าไปช่วยเหลือเพราะรัฐบาลมีปัญหากับกัมพูชา ทำให้การประสานงานไม่สะดวก

จี้ “มาร์ค-กษิต-คำรบ” เอ่ยปากขอโทษ

“นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายคำรบ หากเป็นลูกผู้ชายตัวจริงต้องออกมาขอโทษครอบครัวนายศิวรักษ์ และต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนายศิวรักษ์ด้วย ที่สำคัญต้องตั้งกรรมการขึ้นมาสอบนายคำรบด้วยว่าทำเองโดยพลการหรือว่ามีคน ที่มีอำนาจเหนือกว่าสั่งการ” นายพร้อมพงศ์กล่าว

“ฮุน เซน” ยันมีปัญหากับ “มาร์ค-กษิต”

นาย พร้อมพงศ์กล่าวว่า คณะของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปรับนายศิวรักษ์ได้มีโอกาสพูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่บ้านพักนานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชายืนยันชัดเจนว่าไม่ได้มีปัญหากับประเทศไทยหรือคนไทย แต่มีปัญหากับผู้นำ 2 คนคือ นายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาไม่ได้เกิดเพราะนายศิวรักษ์ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย แต่เกิดจากรัฐบาลไทยเอง

แขวะ “มาร์ค” ไม่ทำตัวเป็นผู้นำประเทศ

“สม เด็จฮุน เซน บอกว่าเขมรแตกแยกเป็น 4 ฝ่าย สู้รบกันมายาวนาน แต่ก็สามัคคีปรองดองกันได้เมื่อปี 2549 จึงฝากถามนายอภิสิทธิ์ว่าจะแก้ปัญหาแตกแยกในประเทศไทยอย่างไร เพราะขณะนี้ไม่ได้ทำตัวเป็นผู้นำประเทศแต่ทำตัวเป็นผู้นำกลุ่ม จึงถึงเวลาแล้วที่นายอภิสิทธิ์จะเสียสละด้วยการลาออกหรือยุบสภา” นายพร้อมพงศ์กล่าว

“ปณิธาน” อ้าง “คำรบ” พยายามติดต่อแล้ว

ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า นายคำรบพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับนายศิวรักษ์หลังจากที่เดินทางกลับถึงประเทศ ไทย แต่ไม่รู้ว่าได้พูดคุยกันหรือยัง ส่วนสาเหตุที่นายคำรบยังไม่ออกมาชี้แจงด้วยตัวเองเพราะผู้บังคับบัญชายัง เป็นห่วง เนื่องจากนายคำรบพูดไม่เก่ง

“สุเทพ” ตัดบทให้เลิกพูดเรื่องจัดฉาก

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการวิจารณ์เรื่องนายศิวรักษ์ว่าเป็นการจัดฉาก โดยจะไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้อีก
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค แถลงหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคว่า ที่ประชุมวิเคราะห์เรื่องกัมพูชาจับกุมนายศิวรักษ์ ซึ่งเห็นตรงกันว่านางสิมารักษ์และนายศิวรักษ์เป็นแค่เหยื่อทางการเมือง ไม่ได้รับรู้กับแผนการในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับนายคำรบที่ตกเป็นเหยื่อ ซึ่งการติดคุก 32 วันของนายศิวรักษ์ไม่คุ้มค่ากับการช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง

ปชป. พลิกลิ้นไม่ได้ว่า 2 แม่ลูกจัดฉาก

“ผม ยืนยันว่าไม่เคยพูดว่านางสิมารักษ์และนายศิวรักษ์รู้เห็นกับการสร้าง สถานการณ์แต่อย่างใด” นพ.บุรณัชย์กล่าวและว่า เรื่องนี้มีข้อน่าสังเกตจากการเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และเมื่อข้อมูลเที่ยวบินของ พ.ต.ท.ทักษิณปรากฏขึ้นมาก็ถูกเปิดเผยที่มาจากคนของพรรคเพื่อไทยที่ได้จากการ ดักฟังโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องต้องไปตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณและ พล.อ.ชวลิตรับรู้ผลก่อนที่ศาลจะตัดสิน และคำตัดสินของศาลก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องจารกรรมข้อมูล

โยนเพื่อไทยยัดเยียดข้อหาจารกรรม

“เรื่อง นี้เป็นที่น่าสังเกตว่า ถ้าการกล่าวหาว่าจารกรรมที่เป็นการกล่าวหาที่พรรคเพื่อไทยพยายามยัดเยียดให้ คนไทยด้วยกันมาตลอดเป็นจริง เหตุใดพอมีการอภัยโทษแล้วทางนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจึงแสดงออกว่าสามารถอยู่ทำ งานที่ประเทศกัมพูชาต่อไปได้ ซึ่งก็เป็นเพราะการปฏิบัติหน้าที่ของนายศิวรักษ์และนายคำรบเป็นการปฏิบัติ ภารกิจตามปรกติ ไม่ได้มีการจารกรรมแต่อย่างใด” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว