thaksinlive

กรุณาสมัคร Use ของท่านด้วย เพื่อที่ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง

Join the forum, it's quick and easy

thaksinlive

กรุณาสมัคร Use ของท่านด้วย เพื่อที่ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง

thaksinlive

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
thaksinlive

thaksinlive


    "กำเนิดพระนางตอแหล" พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ?

    sezzion
    sezzion
    จอมพลเรือ
    จอมพลเรือ


    Posts : 144
    Points : 100000379
    Reputation : 0
    Join date : 21/11/2009

    "กำเนิดพระนางตอแหล" พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ? Empty "กำเนิดพระนางตอแหล" พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ?

    ตั้งหัวข้อ  sezzion Thu Dec 17, 2009 12:14 pm

    วันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552 เวลา 15:18:11 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    "กำเนิดพระนางตอแหล" ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ?

    ฝ่าย ค้านและฝ่ายรัฐบาล เปิดศึกด่ากันรูปแบบใหม่ "สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล" แนะให้ โอบามาร์คและคนประชาธิปัตย์ อ่าน กำเนิดพระนางตอแหล บทเรียนประสบการณ์เมื่อรัฐไทยแตกแยกเป็น 6 ก๊ก "เทพไท เสนพงศ์" สวนกลับว่า คนที่อยู่ ดูไบ น่าอ่านมากกว่า อยากรู้ว่า กำเนิดพระนางตอแหล มีความเป็นมาอย่างไร เรานำมาให้อ่านแล้ว...

    จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ที่ถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกฐานจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นการจัดฉาก

    นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ออกมาสวนกลับว่า ขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์และคนในรัฐบาลเลิกเล่นเกมดิสเครดิตพรรค เพื่อไทยได้แล้ว

    และขอแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ ไปซื้อหนังสือชื่อ "กำเนิดพระนางตอแหล" มาหาอ่าน เพราะหนังสือนี้เป็นหนังสือที่ดีทำให้เห็นว่าความแตกแยกในสมัยโบราณก่อนยุค สุโขทัยเกิดขึ้นได้อย่างไร

    ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอบว่า หนังสือเรื่อง "พระนางตอแหล" ควรจะส่งหนังสือดังกล่าวไปให้คนที่"ดูไบ"อ่านมากกว่า เพราะนั่นเป็นต้นเหตุที่แท้จริง ที่ทำให้คนไทยแตกเป็นก๊ก เป็นเหล่า

    และสำหรับสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เป็น ส.ส. ตนตั้งใจจะส่งหนังสือนิทานอิสปเรื่อง "กบเลือกนาย" ให้ได้อ่าน เพื่อที่จะได้มีสติในการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อจะเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาต่อ ไป เพราะขณะนี้ใช้เวลาเป็นปีก็ยังหาคนดีที่เหมาะสมกับตำแหน่งไม่ได้ เพราะแตกแยกและขาดการยอมรับซึ่งกันและกัน"

    นิทานอิสป เรื่อง กบเลือกนาย ไม่ต้องสาธยาย ให้มาก เพราะเด็กอนุบาลก็เล่านิทานเรื่องนี้ได้

    แต่ กำเนิดพระนางตอแหล เป็นมาอย่างไร ทำไม อภิสิทธิ์ และ คนประชาธิปัตย์ ควรหามาอ่าน !!!

    เอาเข้าจริง กำเนิดพระนางตอแหล ประวัติศาสตร์รัฐไทยโบราณ ช่วง พ.ศ.1129-1215 ที่เรียบเรียงโดย คนหนังสือพิมพ์ที่ชื่อ เรืองยศ จันทรคีรี สำนักพิมพ์สุวรรณภูมิอภิวัฒน์ ราคาปกเล่มละ 110 บาท เนื้อหาบางตอนมีสาระสำคัญ ดังนี้

    @พระแม่ธรณีบีบมวยผม หรือ พระนางอุษา

    พระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งประทับหรือประดิษฐานบริเวณเชิงสะพานผ่านพิภพลีลา หลาย ๆ คนอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง คือ อาจจำกัดกรอบการรับรู้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น...

    ความจริงรูปปั้นดังกล่าวนั้นสร้างขึ้นมาเมื่อสมัยรัชกาลที่ 6 เกิดขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนารถ ในรัชกาลที่ 5 หรือ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในรัชกาลที่ 6 และ 7"

    พระราชดำรินั้นก็เพื่อจะแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดบริสุทธิ์ให้กับผู้คนทั่ว ๆ ไป เป็นสาธารณทานแก่ชาวกรุงเทพฯ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 50 พรรษาของพระองค์เมื่อ พ.ศ. 2456...

    เรื่องของแม่ธรณีหรือแม่พระธรณี หรือ พระแม่ธรณี ยังเกี่ยวข้องกับความเชื่อของคติดั้งเดิมในสังคมไทยและสังคมชาวพุทธ เป็นมรดกทางความเชื่อที่ครอบอยู่ในความคิดและจิตใจ กระทั่งปรุงแต่เป็นมูลฐานแห่งวัฒนธรรมจารีตประเพณี

    ต่อมาเกิดเป็นพิธีรีตองต่าง ๆ ถูกปรับปรุงมาเรื่อยให้ประณีตงดงาม เป็นผลสัมฤทธิ์ในความเป็นสวัสดิมงคลสำหรับวิถีชีวิต กลายเป็น "เทวดา" ในพื้นความเชื่อของสังคมแบบไทย ๆ

    พระแม่ธรณีตามคติความเชื่อของพราหมณ์-ฮินดู ได้รับการเคารพ เพราะถือว่าแผ่นดินเป็นสิ่งค้ำจุนสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ จึงเปรียบเสมือนมารดาผู้ให้กำเนิดหล่อเลี้ยงโลก ทำให้เกิดการยกย่องเทพจากธรรมชาติองค์หนึ่งถือเป็นเพศหญิง เรียกขานนามว่าธรณิธริตริ แปลเป็นไทยคือผู้ค้ำจุนพระธรณี

    เทพแห่งแผ่นดินหรือพระธรณีนั้น ไม่ได้มีเรื่องราวประวัติความเป็นมาปรากฏมากมายเหมือนปวงเทพองค์อื่น ๆ หรือยังอาจสับสนด้วยซ้ำ

    บางตำนานก็ว่าพระธรณีมีโอรสกับพระนารายณ์ ได้แก่ พระอังคาร แต่ไปแย้งบางตำนานให้พระอังคารเป็นโอรสระหว่างพระธรณีกับพระธุรวะหรือดาว เหนือ ...ส่วนจะเป็นชายาของเทพใด ? เห็นจะค้นคว้าหาหลักฐานได้ยากทีเดียว...

    สำหรับคติความเชื่อเรื่องพระแม่ธรณีที่ได้เผยแพร่เข้ามาสู่สังคมไทย สันนิษฐานได้ว่ายังเป็นจากอิทธิพลเกี่ยวข้องของพระพุทธศาสนาเสียส่วนใหญ่ มีเข้าไปโยงเกี่ยวกับหลาย ๆ พิธีกรรม เช่น ก่อนพิธีไปจับคล้องช้าง ก็ยังมีการบูชาพระแม่ธรณี

    แต่ความเชื่อส่วนใหญ่ของสังคมไทยในเรื่องพระแม่ธรณี เห็นจะไปในทางเดียวพ้องกับความเชื่อในแบบฉบับอินเดียเอง หรือในทางวรรณคดีไทยคงมีนามของพระแม่ธรณีถูกเอ่ยถึงอยู่ไม่น้อย ดังตัวอย่างของหนังสือเทศน์มหาชาติปฐมสมโพธิกถา หรือลิลิตตะเลงพ่าย เป็นต้น

    เราอาจพอกล่าวอีกอย่างได้ว่าเรื่องราวของพระธรณีนั้น แสดงถึงความเป็นเทพแห่งความสงบ รักสงบ อยู่เงียบ ๆ ไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรในโลก คงเฝ้าแต่หล่อเลี้ยงโลก ประดุจมารดาถนอมเลี้ยงลูก คอยรับรู้การทำบุญกุศลของมนุษย์โลก โดยการใช้มวยผมรองรับรับน้ำจากการกรวดน้ำ เสมือนกับเป็นอรูปกะ คือเป็นสภาพไม่มีตัวตน แต่ยามเกิดเหตุการณ์สำคัญหรือมีผู้ร้องขอ พระธรณีจะปรากฏรูปขึ้นมาสักครั้งหนึ่ง ?

    ...พระแม่ธรณีที่กล่าวถึงข้างต้น แตกต่างจากพระแม่ธรณีกรรแสงหรือพระแม่ธรณีบีบมวยผมหรือพระแม่ธรณีแห่งแผ่น ดิน ในตำนานทางปักษ์ใต้ซึ่งหมายถึงพระนางอุษาในยุคสหราชอาณาจักรคีรีรัฐตอนปลาย ๆ ราว พ.ศ. 1200 นั้นยังเรียกตามตำนานเป็นพระแม่ธรณีเหมือนกัน เป็นผู้ให้กำเนิดวิชาตอแหลไทย จนแว่นแคว้นของรัฐไทยโบราณยุคนั้นแตกกระจัดกระจาย ก่อนเข้าสู่ยุคศรีโพธิ์หรือศรีวิชัย...

    เป็นข้อน่าปุจฉาว่า คนในสังคมไทยสำหรับบ้านเมืองยุคแตกแยกขัดแย้งปัจจุบันกำลังหลงทางเข้าใจผิด ไปบ้าง นับถือพระแม่ธรณีที่เป็นตำนานทางปักษ์ใต้หรือเปล่า ?

    @ กำเนิดพระนางตอแหล

    รัฐของคนไทยโบราณหรือที่สืบเชื้อสายดั้งเดิมมาจากบรรพบุรุษในอาณาจักรหนัน เจ้า ซึ่งเป็นดินแดนอยู่ในประเทศจีนปัจจุบัน คงหาหลักฐานได้ยากว่าย้อนหลังเกิดขึ้นเมื่อใด ? แต่มีตำนานที่อาจเก่าแก่มากกว่า 5,000 ปี ก่อนสมัยพุทธกาล

    ชาวไตหรือบรรพบุรุษอ้ายไตเหล่านั้นได้อพยพลงมาสู่ดินแดนที่ขึ้นต่อกับแผ่น ดินแม่ของอาณาจักรหนันเจ้า กระทั่งได้แยกตัวออกมาต่างหาก ก่อตั้งขึ้นเป็นอาณาจักรสุวรรณภูมิ เมื่อสมัยของมหาราชาท้าวโกศล

    กระทั่งในราว พ.ศ.297 โดยประมาณก็เป็นยุคสมัยของสหราชอาณาจักรเทียน ซึ่งเป็นการจัดรูปแบบระบบการปกครองขึ้นมาใหม่ มีมหาจักรพรรดิท้าวกุเวร พระราชโอรสของมหาราชาท้าวกู เป็นรัชกาลที่ 1 สืบทอดราชสมบัติจนถึงรัชกาลของมหาจักรดรรดิท้าวเทียนสน เมื่อ พ.ศ.623 จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อกลายเป็นสหราชอาณาจักรเทียนสน เป็นแผ่นดินของรัฐไทยโบราณขณะนั้นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ มาสิ้นสุดลงเมื่อ พ.ศ.693 ยุคสมัยของขุนเทียน หรือมหาจักรพรรดิท้าวพันตา

    มหาจักรพรรดิท้าวพันตาได้เปลี่ยนชื่อจากสหราชอาณาจักรเทียนสน กลายมาเป็นสหราชอาณาจักรคีรีรัฐ พระองค์เป็นรัชกาลที่ 1 ของคีรีรัฐและอยู่ในราชสมบัติจนถึง พ.ศ.753 แล้วสืบทอดอำนาจการปกครองต่อช่วงมาเรื่อย ๆ อีกหลายรัชกาล กระทั่ง พ.ศ.1224 ก็มีการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งหนึ่ง เป็นสหราชอาณาจักรศรีโพธิ์ หรือสหราชอาณาจักรเสียมที่เราเข้าใจผิดมาตลอด ไปเชื่อตามข้อมูลหลักฐานของตะวันตก เรียกเพี้ยนเป็น "ศรีวิชัย"

    สำหรับหนังสือเล่มนี้มุ่งเจาะจงลงไปสู่ห้วงเหตุการณ์ระหว่าง พ.ศ.1129-1215 อันเป็นช่วงปลายของแผ่นดินสหราชอาณาจักรคีรีรัฐ จึงได้นำเสนออย่างรวบรัด ตัดความหรือข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องทิ้งไป โดยงานเขียนชิ้นนี้ต้องการนำเสนอให้เห็นภาพของเจ้าหญิงอุษา หรือ พระนางอุษา พระราชธิดาของมหาจักรพรรดิ หยางจ้าวหลีชุน ผู้เป็นรัชกาลที่ 37 แห่งสหราชอาณาจักรคีรีรัฐ

    เรื่องราวของประวัติศาสตร์รัฐไทยโบราณในช่วงตอนนี้ นับว่าน่าศึกษาและค้นคว้าเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นช่วงเหตุการณ์ที่รัฐไทยมีความแตกแยกจวนเจียนล่มสลาย ...ไม่มีห้วงเวลาใดในประวัติศาสตร์ที่คนไทยจะร้าวรานและทุกข์ระทมขนาดนี้ เป็นความร้าวรานสุดเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าการเสียเอกราชกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ให้แก่พม่า เพราะเป็นเวลาของกาลกาลียุคโดยแท้จริง คนไทยแตกแยกขัดแย้งแบ่งออกเป็น 6 ก๊ก ทำลายล้างก่อสงครามเข่นฆ่ากันเอง เสียชีวิตเป็นใบไม้ร่วง !

    แทบไม่น่าเชื่อว่าเพียงสตรีผู้หนึ่งที่ผิดหวังรุนแรงในความรักแล้วต้องการ สร้างทายาทของตัวเองให้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน คือเจ้าหญิงอุษา ได้ก่ออำนาจมิจฉาทิฐิที่แรงกล้า ภายใต้การซ้อนแผนวางกลอุบายให้ของพระเจ้าจิตรเสน กษัตริย์เชื้อสายราชวงศ์มอญ-ขอม-ทมิฬ

    ทั้งนี้เนื่องจากความไม่พอใจที่สะสมมาตั้งแต่ พ.ศ.1129 เมื่อท้าวอุเทนโปรดเกล้าฯ ตั้งพระยาจันทร์ ใน พ.ศ.1129 พระราชโอรสองค์ที่ 3 ของท้าวเทพนิมิตร ให้เป็นมหาอุปราชปกครองอาณาจักรคามลังกา โดยมีศูนย์กลางอยู่ ณ แคว้นจันทร์บูรณ์ นี้เป็นเหตุชนวนตั้งต้นอีกประการ ทำให้พระนางขอมอินทปัต, พระเจ้าศรีพาระ, พระนางมุสิกะ, พระเจ้าจิตรเสนและพระเจ้าศรีภววรมัน ซึ่งล้วนเป็นเชื้อสายราชวงศ์มอญ มีความไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงร่วมกันสมคบคิดวางแผนการลับ ๆ มีเป้าหมายที่จะผลักดันฝ่ายเชื้อสายราชวงศ์ขอม-มอญ และทมิฬให้ขึ้นไปมีอำนาจอิทธิพลเหนืออาณาจักรคามลังกา เข้าแทนที่เชื้อสายราชวงศ์อ้ายไต ซึ่งเป็นสายราชวงศ์จิว

    พระราชจิตรเสนนั้นเป็นตัวละครหลัก ได้กระทำการหลาย ๆ อย่างโดยต่อเนื่อง เสี้ยมสอนกโลบายแยกยล เป็นวิชามารใส่ความกล่าวหา บิดเบือนข้อเท็จจริง พูดจริงผสมเท็จ หรืออาจเรียกให้เป็นวิชาตอแหล ซึ่งเป็นหนึ่งในเล่ห์กลสำคัญของการยุแยกแตกทำลายเพื่อทำสงคราม บั่นทอนให้คู่สงครามอยู่ในสภาวะระส่ำระสาย ไร้สามัคคี บ่อนทำลายกันเอง !

    พระนางอุษา หรือ "พระแม่ธรณีกรรแสง" หรือพระแม่ธรณีตำนานประวัติศาสตร์รัฐไทยโบราณ ถูกใช้เป็นเครื่องมือ เป็นตัวแสดงหลัก ใช้วิชากระทำตอแหล ปล่อยข่าวทำลายสารพัด ซึ่งดำเนินไปอย่างซับซ้อน กระทั่งสุดท้ายไฟสงครามก็ลุกท่วมทั้งแผ่นดินสหราชอาณาจักรคีรีรัฐ

    นี้เป็นประวัติศาสตร์ไทยช่วงหนึ่งที่ไม่ควรลืม เป็นอุทาหรณ์บอกให้รู้ถึงความเจ็บปวดที่คนไทยกระทำสงครามระหว่างกันเอง เป็นความหายนะที่ตั้งต้นเกิดขึ้นอย่างง่าย ๆ ชี้ให้เห็นความร้ายแรงที่คาดหมายไม่ได้สำหรับวิชามารตอแปลไทย ที่ยังกลายเป็นวัฒนธรรมครอบงำด้านสามานย์ ซึ่งสืบต่อช่วงมาจนถึงปัจจุบัน ?

    นี่เป็นเพียง บางส่วน บางตอน จากหนังสือ กำเนิดพระนางตอแหล เวอร์ชั่น เรืองยศ จันทรคีรี
    sezzion
    sezzion
    จอมพลเรือ
    จอมพลเรือ


    Posts : 144
    Points : 100000379
    Reputation : 0
    Join date : 21/11/2009

    "กำเนิดพระนางตอแหล" พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ? Empty Re: "กำเนิดพระนางตอแหล" พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ?

    ตั้งหัวข้อ  sezzion Thu Dec 17, 2009 12:14 pm

    เรื่องจากปก จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
    ประจำวัน อังคาร ที่ 15 ธันวาคม 2009

    “มาร์ค”จริงใจสมานฉันท์ยันไม่เลือกเหลือง-แดง

    “อภิสิทธิ์” ยืนยันมีความจริงใจที่จะสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น โดยจะใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมไม่ใช่เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง เคารพสิทธิของคนที่มีความเห็นแตกต่าง และไม่เคยเลือกสีเสื้อว่าเหลืองหรือแดง “สุเทพ” ให้สู้ตามกติกาเพื่อความสงบสุข “พัลลภ” เผยอดีตทหารอีกกว่า 40 คน ตบเท้าเข้าพรรคเพื่อไทย

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “รัฐบาลกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน” ในงานมหกรรมสิทธิมนุษยชน เนื่องในวันสิทธิมนุษยชนสากลว่า การทำงาน 1 ปีที่ผ่านมาได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าความแตกต่างทางความคิดทางการเมืองเป็น สิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออกได้ตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะไม่เข้าไปละเมิดการแสดงออกและการเคลื่อนไหว และจะไม่นำกฎหมายมาเป็นเครื่องมือเพื่อการทำลายล้างทางการเมือง

    นายก รัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สื่อต่างชาติวิเคราะห์ว่ารัฐบาลล้มเหลวในการ สร้างสมานฉันท์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาว่า เป็นการวิเคราะห์ตามความเห็นของนักวิการคนหนึ่งก็พูดแบบนี้มาตลอด ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมารัฐบาลได้เคารพต่อสิทธิของทุกฝ่าย บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม ส่วนการสร้างความสมานฉันท์ตามกระบวนการของรัฐสภานั้นรัฐบาลก็ดำเนินการอย่าง จริงจัง แต่การสร้างความสมานฉันท์จะทำเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมกัน

    ส่วนที่ยังมีข้อวิจารณ์เรื่องการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่เลือกใช้กับกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ใช่ กับกลุ่มคนเสื้อเหลืองนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การประกาศใช้กฎหมายหรือไม่ไม่ได้ดูที่สีเสื้อแต่ดูที่วิธีการเคลื่อนไหว จุดประสงค์ของการชุมนุม ซึ่งการชุมนุมของคนเสื้อแดงวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมารัฐบาลก็ไม่ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพราะหน่วยข่าวไม่พบว่าจะมีปัญหาตามมาจากการชุมนุม ยืนยันว่าจะใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลสร้างความสมานฉันท์อย่างเต็ม ที่

    นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากคนไทยยึดเอาพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นที่ตั้งบ้านเมืองเรา มั่นคงแน่ ส่วนความเห็นที่ไม่ตรงกันมีวิธีการแก้ไข มีระบบ มีกฎเกณฑ์กติกาอยู่ อยากให้กลุ่มเสื้อแดงต่อสู้ตามกติกาบ้านเมืองจะได้เรียบร้อย ทางรัฐบาลจะพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกันทางอารมณ์ ไม่จุดชนวนความรู้สึกโกรธแค้น โกรธเคืองกัน ขณะเดียวกันก็พยายามจัดกิจกรรมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความเป็น น้ำหนึ่งใจเดียวกัน อย่างเช่นการให้ประชาชนมาร่วมกันร้องเพลงชาติ

    นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะเผยแพร่พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหา สมาคมในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2552 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยจะเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆคือ สื่อสิ่งพิมพ์ประกอบด้วยพระราชดำรัสพร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ เป็นเอกสารขนาด A4 และปฏิทินพก แจกจ่ายให้กับหน่วยงานของรัฐและประชาชนทั่วไปผ่านทางเคาน์เตอร์บริการธนาคาร กรุงไทย ธนาคารออมสิน บริษัทไปรษณีย์ไทย สถานีบริการน้ำมัน ปตท. และด่านเก็บค่าผ่านทางของการทางพิเศษ ส่วนสติ๊กเกอร์ขนาดใหญ่และสติ๊กเกอร์ขนาดกลางจะแจกจ่ายที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. และสติ๊กเกอร์ขนาดเล็กแจกจ่ายตามโรงเรียน นอกจากนี้จะเผยแพร่พระราชดำรัสผ่านทางสื่อวิทยุและโทรทัศน์ รวมถึงเคเบิลทีวี.

    พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองแบบเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น จะเห็นได้จากคดีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทย ที่การแสดงออกในตอนแรกกับตอนหลังแตกต่างกัน
    sezzion
    sezzion
    จอมพลเรือ
    จอมพลเรือ


    Posts : 144
    Points : 100000379
    Reputation : 0
    Join date : 21/11/2009

    "กำเนิดพระนางตอแหล" พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ? Empty Re: "กำเนิดพระนางตอแหล" พระแม่ธรณีบีบมวยผม ทำไมต้องแนะนำให้"มาร์ค"และคนปชป.อ่าน ?

    ตั้งหัวข้อ  sezzion Thu Dec 17, 2009 12:15 pm

    คอลัมน์ คิดเหนือข่าว
    จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
    ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 17 ธันวาคม 2009
    โดย เรืองยศ จันทรคีรี

    ระบบมั่ว-Autonomy-Decentralizeสภาสันติสุข+ศอ.บต.+กอ.รมน.

    จะ ว่าอคติก็ยอมครับ เรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้คงเป็นอีกปัญหาของบ้านเมืองที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ แก้ปัญหาโดยปากมาตลอด คราวนี้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้มีการหารือเต็มคณะระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย

    มีเรื่องน่า สนใจจริงก็เป็นมิติของความมั่นคง โดยเฉพาะแนวคิดหลักในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดน ทางฝ่ายมาเลเซียนั้นเสนอเป็นเรื่องเขตปกครองพิเศษ ใช้ภาษาอังกฤษว่า Autonomy ซึ่งอันนี้ก็เป็นสิ่งที่พูดมานานอยู่เหมือนกัน แต่ Autonomy คงมีหลายโมเดล ถ้าเราไม่จำเพาะเจาะจงจึงเป็นความหมายแบบกว้างๆ แต่ถึงจะกว้างอย่างไรมันย่อมบ่งบอกชัดให้เป็นความพิเศษอย่างแน่นอน!

    สำหรับ นายอภิสิทธิ์ยังคงเห็นว่าไทยได้กระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริหารจัดการและเลือกตั้งผู้บริหารของตัวเองอยู่แล้ว นอกจากนั้นคงมีความคืบหน้าอยู่ในแง่ข้อมูลใหม่จาก ดร.ปณิธาน วัฒนายากร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการชี้แจงในเรื่องเขตปกครองพิเศษ (Autonomy) อันนี้เป็นข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดร.ปณิธานบอกว่า “หลักการของไทยกับมาเลเซียตรงกัน แต่อาจใช้คำเรียกต่างกัน”

    ตรงนี้ผม ไม่แน่ใจครับว่าเป็นการใช้คำเรียกต่างกันอย่าง ดร.ปณิธาน วัฒนายากร แถลงไว้คือกริ่งเกรงว่าเรื่องความหมายอาจยังไม่ตรงกันนัก ตีความหมาย Autonomy คงแปลเป็น “การปกครองตนเอง” ผมไม่ใช่นักเรียนนอกแบบ ดร.ปณิธาน แต่มันย่อมแปลเป็นคนละอย่างกับ Decentralize
    แน่นอนครับ...สรุปว่าการปกครองตนเองกับการกระจายอำนาจเป็นคนละอย่าง?

    แม้ ข้อเสนอของมาเลเซียจะไม่ตรงกับความเข้าใจของไทยเรา ทางฝ่ายนายกฯมาเลเซียก็ถือว่าปัญหาจังหวัดชายแดนเป็นปัญหาภายในของประเทศไทย ...ประเด็นนี้จะมีการแถลงอย่างไร และฝ่ายมาเลเซียจะแสดงท่าทีเช่นไร โมเดลของสองฝ่ายคงเป็นคนละเรื่อง ทราบว่าทางรัฐบาลนายอภิสิทธิ์พยายามสร้างรูปแบบการปกครองพิเศษในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแนวคิดในการใช้ ศอ.บต. ให้เป็นเขตบริหารพิเศษใน 5 จังหวัดชายแดน สร้างกฎหมายขึ้นมารองรับ บอกว่าอยากให้คนในท้องถิ่นเข้าไปมีบทบาท เหมาะสมตามความเป็นจริงในพื้นที่

    ฟังๆ ก็งงอยู่ไม่น้อยครับ โมเดลเขตการปกครองรูปแบบพิเศษซึ่งจะต้องเริ่มต้นกันที่ ศอ.บต. ขยายความไปอีกหน่อยก็ได้สำหรับกฎหมายที่กำลังแปรญัตติอยู่ เห็นว่าจะจัดให้มีสภาสันติสุข โดยเป็นสภามีที่มาจากท้องถิ่นให้เข้ามาทำหน้าที่ดูแลในเชิงนโยบาย แต่ใช้ ศอ.บต. เป็นกลไกทางการบริหาร ศอ.บต. จะทำหน้าที่เหมือนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นองค์กรขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี ส่วนผู้อำนวยการ ศอ.บต. คงได้รับการแต่งตั้งไปจากส่วนกลาง...

    ศอ.บต.ใหม่ของประชาธิปัตย์จะ เกิดอำนาจมากกว่าเดิม เชื่อมโยงได้กับหน่วยงานต่างๆเพราะมีอำนาจ มีกฎหมายของตัวเองรองรับ...ผมงงๆอยู่ไม่น้อยสำหรับการปัดฝุ่น ศอ.บต. ในเที่ยวนี้ ซึ่งยังทำงานคู่ขนานไปกับ กอ.รมน. เห็นบอกว่าพื้นที่ Sensitive ก็ปล่อยให้เป็นงานของ กอ.รมน. แล้วพื้นที่ไหนสถานการณ์เข้าสู่ความเป็นปกติ ศอ.บต. ก็เข้าไปรับช่วงงานต่อ...แล้วสำหรับบางช่วงทั้ง ศอ.บต. กับ กอ.รมน. ยังจะต้องทำงานด้านพัฒนาร่วมกัน?

    หากให้ตีความ...ความหมายการปกครอง รูปแบบพิเศษของจังหวัดชายแดนภาคใต้ถือเป็นโมเดลของ ศอ.บต.ใหม่ที่ควบคู่ไปกับการทำงานในมิติความมั่นคง แยกร่างเป็นบางช่วงกับ กอ.รมน. แต่มีเวลาที่เป็นคู่แฝดทำงานด้วยกันในบางสถานการณ์ ที่เห็นว่าใหม่ก็เป็นการเกิดสภาสันติสุขให้คนจากท้องถิ่นเข้ามามีบทบาท ...แต่เรียนตามตรงผมว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ คล้ายกับสภาสันติสุข นี่น่าจะเป็นคล้ายเครื่องเคียงเท่านั้นเอง มีฐานะแบบที่ปรึกษาของสองหน่วยราชการคู่แฝดที่ทำงานในด้านความมั่นคง...มัน จะเป็นโมเดลของเขตการปกครองรูปแบบพิเศษได้อย่างไร?
    ถ้าบอกว่าเป็นการ บริหารของราชการส่วนกลางในรูปแบบพิเศษยังพอฟังได้ ยิ่งนายกฯไปรวมเป็นแกงโฮะทางเหนือหรือนาซิดาแงฮ์ของมุสลิมใต้ พาดพิงไปถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมๆกันแล้วมันน่าจะเป็นรูปแบบหรือโมเดลการปกครองระบบมั่วครับ...ผมว่าเสร็จ การเสนอ Autonomy คราวนี้ นาจิบ ราซัค คงจะส่ายหัวไปอีกนาน เพิ่งเข้าใจว่า Autonomy มันเป็นระบบมั่วอย่างนี้เอง?

      เวลาขณะนี้ Sat Nov 23, 2024 1:21 am