thaksinlive

กรุณาสมัคร Use ของท่านด้วย เพื่อที่ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง

Join the forum, it's quick and easy

thaksinlive

กรุณาสมัคร Use ของท่านด้วย เพื่อที่ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง

thaksinlive

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
thaksinlive

thaksinlive


    วิกฤตสื่อไทย

    sezzion
    sezzion
    จอมพลเรือ
    จอมพลเรือ


    Posts : 144
    Points : 100000379
    Reputation : 0
    Join date : 21/11/2009

    วิกฤตสื่อไทย Empty วิกฤตสื่อไทย

    ตั้งหัวข้อ  sezzion Sun Nov 22, 2009 1:20 am

    ขณะที่สื่อไทยก็อยู่ในภาวะล้มละลายทางจรรยาบรรณไม่ต่างจากการเมือง
    เพราะแทนที่สื่อจะทำหน้าที่เป็นปากเสียงและให้ความจริงกับประชาชนให้มีสติ
    สัมปชัญญะและเกิดปัญญา แต่สื่อส่วนใหญ่กลับมีอคติและเลือกข้าง
    ใส่ร้ายป้ายสีไม่ต่างกับกลุ่มผู้มีอำนาจ
    ซึ่งพยายามปลุกระดมและกรอกหูความคลั่งชาติให้ประชาชนรักชาติอย่างไม่มีสติ

    ไม่
    ว่าจะเป็นกรณีสถาบันเบื้องสูง หรือปัญหาผู้นำกัมพูชา
    ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากกรณีไทม์สออนไลน์ที่สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ
    ที่มีการพาดหัวที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง
    แต่รัฐบาลและสื่อไทยกลับใช้โอกาสที่ไทม์สออนไลน์พาดหัวข่าวที่กระทบจิตใจคน
    ไทยมาโจมตี เหมือนรับรองว่าอดีตนายกรัฐมนตรี
    พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้ให้สัมภาษณ์จริงตามพาดหัวข่าว
    ทั้งที่ควรจะทำความจริงให้ปรากฏ หรือกรณีไทม์สออนไลน์ลงบทบรรณาธิการชี้แจง
    ซึ่งถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ประชาชนควรรับรู้
    เพื่อจะได้ใช้เป็นวิจารณญาณว่าอะไรจริงอะไรเท็จ
    แต่ก็ไม่มีสื่อไทยใดเอามาเผยแพร่
    นอกจากเสนอข่าวไม่ต่างกับเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล

    ขณะที่ปัญหา
    คอร์รัปชันที่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้มากมาย
    โดยเฉพาะโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท สื่อกลับให้ความสนใจน้อยมาก
    ทั้งที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ที่ทำให้บ้านเมืองหายนะล่มจม

    สื่อใน
    ช่วงสถานการณ์ที่ผ่านมามีความสำคัญ
    เราต้องกลับมาทบทวนช่วงที่บ้านเมืองมีวิกฤต
    อยู่ที่ว่าเราต้องการสื่อเพื่อจุดปัญญา จุดแสงสว่างให้สังคม
    หรือต้องการให้สื่อจุดไฟของความร้อนแรง
    แล้วทำให้คนไทยแตกแยกฆ่ากันตายมากขึ้น

    นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตสมาชิกวุฒิสภา กล่าวในการสัมมนา สื่อและประชาธิปไตยในวิกฤต : บทบาทและความรับผิดชอบของสื่อ

    ขณะ
    ที่นายกิตติศักดิ์ปรกติ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    ให้ความเห็นว่า
    สื่อปัจจุบันไม่ได้ส่งเสริมคุณค่าของประชาธิปไตยอย่างจริงจัง
    แต่ยังคาดหวังว่าในอนาคตสื่อจะตระหนักว่าตนเองเป็นสะพานข้ามของคุณธรรม
    เป็นสะพานข้ามของความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
    จากความสัมพันธ์ตามชาติกำเนิดมาเป็นความสัมพันธ์ตามสมัครใจของคนสมัยใหม่
    โดยสื่อมวลชนต้องยึดในคุณธรรม 4 ข้อคือ

    1.บทบาทของสื่อต้องต่อ สู้ให้การปกครองโดยกฎหมายเป็นใหญ่

    2.สื่อมวลชนต้องต่อสู้เพื่อประชาสังคม

    3.สื่อ
    มวลชนต้องต่อสู้เพื่อวัฒนธรรมประชาธิปไตย คือการปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมความ
    คิดเห็น หรือผู้มีความเห็นแตกต่างกันอย่างเสมอภาค ถ้อยทีถ้อยอาศัย

    4.สื่อมวลชนต้องต่อสู้เพื่อ ให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม

    หยุดวิกฤตหรือกลียุค!

    ดัง
    นั้น ฝ่ายที่กุมอำนาจอยู่ขณะนี้
    ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์หรือกลุ่มอำมาตย์ต่างไม่ต้องการให้มีการเลือก
    ตั้ง เพราะกลัวจะพ่ายแพ้ฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งก็คือเสียงของประชาชน

    การ
    คืนอำนาจกลับสู่ประชาชนโดยการให้เข้าคูหาเลือกตั้งทุกๆ 4 ปี คือการประนี
    ประนอมเพื่อประชาธิปไตยอย่างนุ่มนวลที่สุด
    เพราะถึงที่สุดแล้วคนไทยมีจิตใจอ่อนโยนและอดทนสูงมาตลอดตั้งแต่ปี 2475
    ความยุติธรรมคือสิ่งสำคัญมากกว่าการปกครองด้วยระบอบใด กล่าวคือ ประเทศไทย
    แทบไม่เคยมีประชาธิปไตยที่แท้จริงเลยสักครั้ง แต่ก็อยู่กันได้ อดทนได้
    เพราะยังพอพึ่งพาบารมีแห่งสิ่งสถิตซึ่งความยุติธรรม

    วันเวลาแห่งความ
    อดทนและประนีประนอมอาจถึงจุดที่ยากจะหวนคืน
    สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นเพื่อความสงบอย่างแท้จริงคือการคืนอำนาจกลับสู่ประชาชน
    มิฉะนั้นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนอกจากโค่น
    ล้มกากเดนเผด็จการอย่างถอนรากถอนโคนแล้ว
    อาจจะพานพาไปกระทบอำนาจเก่าแก่ให้พากันล้มครืนไปเสียทั้งหมดก็เป็นได้

    วันนี้
    กลุ่มอำมาตย์และพวกพ้องจึงต้องสำเหนียกว่าไม่ว่าจะใช้อำนาจเผด็จการหรือ
    อำนาจนอกระบบใดๆมาบิด เบือนหรือตอแหล ก็ไม่มีวันที่ปิดกั้น ความจริงได้
    โดยเฉพาะสื่อยุคโลกาภิวัตน์ไร้พรม
    แดนที่ไม่เคยปิดกั้นสำหรับประชาชนทุกคนที่จะต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

    ระบอบตอแหล

    ยุค
    ที่ประเทศเพื่อนบ้านก้าวล้ำนำสมัยสู่การสื่อสารยุค 3G กันหมดแล้ว
    ในขณะที่ไทยยังทะเลาะกันไม่เลิก
    และพร้อมที่จะก้าวสู่สงครามชิงซากโบราณสถาน มรดกแห่งบรรพบุรุษ
    ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าประวัติศาสตร์แต่ละชาติต่างคนต่างเขียนเข้าข้างตนเอง

    ยุค
    ที่สงครามการค้าและสงครามสื่อสารไร้พรมแดนสำคัญกว่าการแย่งชิงเขตแดน
    การบุกรุกล้ำแดนเข้าสู่ราชอาณาจักรด้วยอาวุธวัฒนธรรม การเงิน การสื่อสาร
    คือสงครามรูปแบบใหม่ที่อุบัติขึ้นแล้วจริงๆ

    วันนี้วันที่คนไทยกำลัง
    แสดงความรักชาติ และพร้อมประกาศสงครามกับเพื่อนบ้าน
    อาจมิทันรู้ตัวว่าลูกหลานไทยของเราตกเป็นเชลยสงครามวัฒนธรรมจากเกาหลีกันหมด
    แล้วหรือไม่

    หลังโค่นระบอบอภิสิทธิ์ลงเรียบร้อยแล้ว เห็นทีจะต้องถอนรากถอนโคนระบอบตอแหลลงเสียในคราวเดียวกัน

      เวลาขณะนี้ Thu Nov 21, 2024 4:24 am