บ้าน
ปธ.กกต.เผยได้สำนวนคดีแล้วกว่า 7 พันหน้า เตรียมส่งความเห็นให้ปีหน้า แย้มลงมติตามเดิม ปัดเป็นเพื่อนซี้ "บัญญัติ-ไตรรงค์" สมัยยังเรียน มธ. ยัน ปชป.ไม่เคยมายุ่งกับสำนวน ด้าน "วิสุทธิ์" ยืนยันลงมติตามเดิมคือให้ยุบ ปชป...
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวถึงมติ กกต.ต่อกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จะดูอย่างละเอียดรอบคอบให้ครบถ้วน เพราะต้องตัดสินใจคนเดียว ซึ่งขณะนี้ได้ขอเอกสารทั้งหมดจากฝ่ายสืบสวนมาพิจารณารายละเอียดว่าหลักฐาน ทั้งหมดที่มีอยู่เพียงพอต่อการตัดสินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถทำความเห็นได้ทันในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเอกสารมีกว่า 7,000 หน้า คงทำความเห็นไม่ทันสิ้นปี
"ตอน นี้กลายเป็นว่านายทะเบียนต้องมา ตัดสินใจเองคนเดียวทั้งหมด ส่วนสำนวนที่สอบไว้ก็ไม่เสียเปล่า เพราะกระบวนการสืบสวนสอบสวนช่วยให้นายทะเบียนได้ข้อมูล แต่จะเพียงพอหรือไม่ต้องมาดูกันอีกครั้ง" นายอภิชาต กล่าว
อย่างไรก็ ตาม ถ้าจะให้ตัดสินก็เคยพูดแล้ว ว่าถ้าตนตัดสินก็คงออกมาอย่างเดิม เพราะดูรายละเอียดแล้วว่ามีหลักฐานว่าเพียงแค่นี้ หมายความว่าเป็นไปตามที่ตนเคยลงมติไป ดังนั้น ขอดูรายละเอียดอีกครั้งเพื่อพิจารณาและตัดสินใจ
เมื่อถามว่าหาก เห็นว่าพยานไม่เพียงพอจะขอสอบสวนเพิ่มเติมได้หรือไม่ นายอภิชาต ตอบว่า หากใครมีหลักฐานว่ามีการโอนเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอให้ส่งมาที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ตนพร้อมจะนำมาพิจารณา ส่วนเอกสารที่มีการอภิปรายในสภา ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้ามีตามที่อภิปรายจริงก็ส่งมาให้นายทะเบียนได้ ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมกดดัน กกต.นั้น ไม่เป็นไร ตนก็ทำดีที่สุดแล้ว และตนจะทำให้เร็วและไม่ยืดยื้อ
ส่วนที่ถูกกล่าว หาว่าเป็นเพื่อนซี้กับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายอภิชาต กล่าวว่า ความหมายของเพื่อนซี้คืออะไร แค่ไหน เป็นเพื่อนเรียนร่วมสถาบัน 1,200 คน ที่เรียนรุ่นเดียวกันใน ม.ธรรมศาสตร์ ตนไม่เคยอยู่ห้องเดียวกับนายบัญญัติ แต่หากคนไหนที่เรียก "ไอ้" ได้ ถึงจะเรียกว่าเพื่อนซี้ แต่ตนเรียกนายบัญญัติ ว่า "คุณ" ตลอด และไม่เคยใกล้ชิดถึงขนาดรู้ว่าบ้านอยู่ไหน ส่วน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็อยู่คนละคณะไม่พบเจอกัน แต่เราต้องให้ความเคารพกัน ดังนั้น ขอให้เข้าใจด้วย และการที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นก็ไม่จำเป็นต้องซี้กันทุกคน และยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมายุ่งในการพิจารณาสำนวนนี้ แม้แต่โทรศัพท์จากใครในพรรคก็ไม่เคยมี
ด้านนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. กล่าวว่า นายอภิชาต ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองจะพิจารณาสำนวนดังกล่าวเสร็จเมื่อไร อยู่ที่ดุลพินิจของนายอภิชาต ตนไม่ได้ตรวจสอบในกระบวนการนั้นว่านายทะเบียนพรรคการเมืองจะดำเนินการอย่าง ไร เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวเสนอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นการทำข้ามขั้นตอน ที่นายทะเบียนต้องเห็นชอบก่อนหรือไม่ นายวิสุทธิ์ ตอบว่า ตนได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว และไม่ต้องการจะไปโต้แย้งกับใคร เมื่อถามย้ำว่า หากนายทะเบียนพรรคการเมืองนำความเห็นเสนอที่ประชุมกกต.อีกก็จะยืนยันมติเดิม ที่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ ตอบว่า "ผมได้ตัดสินใจไปแล้ว"
เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. กล่าวถึงมติ กกต.ต่อกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า จะดูอย่างละเอียดรอบคอบให้ครบถ้วน เพราะต้องตัดสินใจคนเดียว ซึ่งขณะนี้ได้ขอเอกสารทั้งหมดจากฝ่ายสืบสวนมาพิจารณารายละเอียดว่าหลักฐาน ทั้งหมดที่มีอยู่เพียงพอต่อการตัดสินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คงไม่สามารถทำความเห็นได้ทันในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเอกสารมีกว่า 7,000 หน้า คงทำความเห็นไม่ทันสิ้นปี
"ตอน นี้กลายเป็นว่านายทะเบียนต้องมา ตัดสินใจเองคนเดียวทั้งหมด ส่วนสำนวนที่สอบไว้ก็ไม่เสียเปล่า เพราะกระบวนการสืบสวนสอบสวนช่วยให้นายทะเบียนได้ข้อมูล แต่จะเพียงพอหรือไม่ต้องมาดูกันอีกครั้ง" นายอภิชาต กล่าว
อย่างไรก็ ตาม ถ้าจะให้ตัดสินก็เคยพูดแล้ว ว่าถ้าตนตัดสินก็คงออกมาอย่างเดิม เพราะดูรายละเอียดแล้วว่ามีหลักฐานว่าเพียงแค่นี้ หมายความว่าเป็นไปตามที่ตนเคยลงมติไป ดังนั้น ขอดูรายละเอียดอีกครั้งเพื่อพิจารณาและตัดสินใจ
เมื่อถามว่าหาก เห็นว่าพยานไม่เพียงพอจะขอสอบสวนเพิ่มเติมได้หรือไม่ นายอภิชาต ตอบว่า หากใครมีหลักฐานว่ามีการโอนเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอให้ส่งมาที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ตนพร้อมจะนำมาพิจารณา ส่วนเอกสารที่มีการอภิปรายในสภา ตนไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ถ้ามีตามที่อภิปรายจริงก็ส่งมาให้นายทะเบียนได้ ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะมาชุมนุมกดดัน กกต.นั้น ไม่เป็นไร ตนก็ทำดีที่สุดแล้ว และตนจะทำให้เร็วและไม่ยืดยื้อ
ส่วนที่ถูกกล่าว หาว่าเป็นเพื่อนซี้กับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นั้น นายอภิชาต กล่าวว่า ความหมายของเพื่อนซี้คืออะไร แค่ไหน เป็นเพื่อนเรียนร่วมสถาบัน 1,200 คน ที่เรียนรุ่นเดียวกันใน ม.ธรรมศาสตร์ ตนไม่เคยอยู่ห้องเดียวกับนายบัญญัติ แต่หากคนไหนที่เรียก "ไอ้" ได้ ถึงจะเรียกว่าเพื่อนซี้ แต่ตนเรียกนายบัญญัติ ว่า "คุณ" ตลอด และไม่เคยใกล้ชิดถึงขนาดรู้ว่าบ้านอยู่ไหน ส่วน นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ก็อยู่คนละคณะไม่พบเจอกัน แต่เราต้องให้ความเคารพกัน ดังนั้น ขอให้เข้าใจด้วย และการที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นก็ไม่จำเป็นต้องซี้กันทุกคน และยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยมายุ่งในการพิจารณาสำนวนนี้ แม้แต่โทรศัพท์จากใครในพรรคก็ไม่เคยมี
ด้านนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. กล่าวว่า นายอภิชาต ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองจะพิจารณาสำนวนดังกล่าวเสร็จเมื่อไร อยู่ที่ดุลพินิจของนายอภิชาต ตนไม่ได้ตรวจสอบในกระบวนการนั้นว่านายทะเบียนพรรคการเมืองจะดำเนินการอย่าง ไร เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวเสนอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นการทำข้ามขั้นตอน ที่นายทะเบียนต้องเห็นชอบก่อนหรือไม่ นายวิสุทธิ์ ตอบว่า ตนได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว และไม่ต้องการจะไปโต้แย้งกับใคร เมื่อถามย้ำว่า หากนายทะเบียนพรรคการเมืองนำความเห็นเสนอที่ประชุมกกต.อีกก็จะยืนยันมติเดิม ที่ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ ตอบว่า "ผมได้ตัดสินใจไปแล้ว"
