thaksinlive

กรุณาสมัคร Use ของท่านด้วย เพื่อที่ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง

Join the forum, it's quick and easy

thaksinlive

กรุณาสมัคร Use ของท่านด้วย เพื่อที่ได้เห็นอะไรหลายๆอย่าง

thaksinlive

Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
thaksinlive

thaksinlive


    ประหารนายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย

    sezzion
    sezzion
    จอมพลเรือ
    จอมพลเรือ


    Posts : 144
    Points : 100000379
    Reputation : 0
    Join date : 21/11/2009

    ประหารนายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย Empty ประหารนายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย

    ตั้งหัวข้อ  sezzion Thu Dec 17, 2009 9:32 am

    ประหารนายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย 4386b02915a52d0
    ประหาร
    เสธ.เอ้ “พ.อ.พิสิษฐ์ อมรวิสัยสรเดช” นายทหารสังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย
    ร่วมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ “เกาไช้หลุน” ผลิตยาบ้า ส่วน “เสธ.หยวก”
    เพื่อนร่วมแก๊งโดนคุกตลอดชีวิต

    ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา
    คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ฟ้อง พ.อ.พิสิษฐ์
    หรือกฤตนัย หรือภัทระ หรือธีรวุฒิ อมรวิสัยสรเดช หรือเสธ.เอ้ และ
    พ.ท.สุรยุต สังข์เทพ หรือเสธ.หยวก สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย
    ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
    กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดตามที่สมคบกันแล้ว ตาม
    พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 8 วรรค
    2 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

    คดีนี้โจทก์ฟ้องระบุความผิด
    จำเลยสรุปว่า เมื่อประมาณปี 40 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน
    จำเลยทั้งสองกับนายประเสริฐ สินบัณฑิต กับพวกรวม 3 คน
    ที่ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต และพวกที่ยังหลบหนี
    ได้สมคบกันมีเมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าชนิดผงน้ำหนัก 23,784 กรัม ประมาณ 23.7
    กก.เศษ ราคาประมาณ 40 ล้านบาท พร้อมอุปกรณ์การผลิตยาบ้า รวม 116 รายการ
    กระทั่งวันที่ 8 พ.ย. 40 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
    ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายประเสริฐกับพวกได้พร้อมกับยาบ้าและของกลางจำนวนมาก
    ได้ที่บ้านเลขที่ 316 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
    ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดี
    ต่อมาจำเลยทั้งสองได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน บช.ปส.
    และให้การปฏิเสธโดยตลอด

    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสอง
    ฝ่ายแล้วเห็นว่า โจทก์มีนายเศรษฐนันท์ สิริจิระสุข หรือเกาไช้หลุน
    หรือดราก้อน
    จำเลยคดีค้ายาเสพติดที่ศาลจังหวัดฉะเชิงเทราพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต
    เบิกความยืนยันว่า จำเลยที่สองสมคบกันโดยร่วมกับตนผลิตยาเสพติด
    ทั้งที่หมู่บ้านกฤษดานคร 19 และ ที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา
    ที่เจ้าหนที่ตรวจยึดยาบ้า พร้อมอุปกรณ์จำนวนมาก โดยจำเลยที่ 2
    มีหน้าที่หาน้ำยาเคมี เช่นเดียวกับจำเลยที่ 1
    ซึ่งนำรถยนต์ของทางราชการมาขนยาเสพติด และนายเศรษฐนันท์
    เป็นผู้ติดต่อพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่ เช่นนายสุรชัย เงินทองฟู หรือบังรอน
    และนายสุภาพ สีแดง หรือภาพ 70 ไร่ นอกจากนี้ จำเลยที่ 1
    ยังเคยให้ความช่วยเหลือนายเศรษฐนันท์ คดียาบ้าที่ จ.ชลบุรี โดยให้
    บิดาของจำเลยที่ 1
    ซึ่งเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่เป็นคนเจรจาต่อรองกับนายตำรวจ
    แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้

    โจทก์ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ
    บช.ปส.ที่ไปรับตัวนายเศรษฐนันท์ที่ประเทศไต้หวัน
    เบิกความถึงการสอบสวนและความสัมพันธ์ของนายเศรษฐนันท์ กับจำเลยทั้งสอง
    โดยเชื่อมโยงสอดคล้องกัน อีกทั้งยังมีพยานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ
    จำเลยที่ 1 เบิกความถึงพฤติการณ์ของจำเลยที่ 1 ในการค้ายาเสพติด เห็นว่า
    แม้นานยเศรษฐนันท์จะให้การซัดทอดจำเลยทั้งสองที่ร่วมกระทำผิด
    แต่การซัดทอดไม่เกิดประโยชน์ต่อนายเศรษฐนันท์
    ซึ่งถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ทั้งพฤติการณ์แห่งคดี
    จะไม่สามารถระบุวันที่ชัดเจนได้
    แต่พยานระบุเนื้อหาสาระสำคัญของคดีที่ยากจะปรุงแต่งให้จำเลยทั้งสองต้องรับ
    โทษ จึงรับฟังพยานปากนี้ได้

    โจทก์ยังมีผู้ใต้บังคับบัญชาของ
    จำเลยที่ 1 เป็นพยาน ซึ่งจำเลยที่ 1 สามารถให้คุณให้โทษได้
    แต่พยานก็เลือกที่จะเบิกความไปตามจริง
    ทั้งพยานโจทก์ยังมีแม่บ้านหมู่บ้านกฤษดานคร 19 เบิกความสนับสนุนว่า
    ได้เข้าไปทำความสะอาดบ้านเช่าที่จำเลยทั้งสองเช่าไว้ พบว่ามีการใช้กระดาษ
    และผ้าม่านปิดช่องกระจก หน้าต่าง ประตูอย่างมิดชิด
    และพบคราบยาเสพติดสีส้มสีขาว จำนวนมากหลายแห่ง
    เมื่อพิจารณาพยานโจทก์ทั้งหมด รวมทั้งความสัมพันธ์กับนายเศรษฐนันท์แล้ว
    เชื่อว่าจำเลยที่ 1 มีความสัมพันธ์กับนายเศรษฐนันท์มานาน
    แม้โจทก์จะไม่มีพยานยืนยันว่าจำเลยทั้งสองครอบครองยาเสพติดดังกล่าวก็ตาม
    แต่จากพยานแวดล้อมก็เพียงพอได้ว่าจำเลยทั้งสองสมคบกันค้ายาเสพติดตามที่
    โจทก์ฟ้อง
    ส่วนข้อต่อสู้ของจำเลยนั้นไม่มีน้ำหนักที่จะมาหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้

    พิพากษา
    ว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้อง เป็นความผิดหลายกรรม ผิดกฎหมายหลายบท
    ฐานร่วมกันผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง
    แต่คำให้การของจำเลยที่ 2 มีประโยชน์บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่
    2 ตลอดชีวิต

      เวลาขณะนี้ Sun May 19, 2024 11:10 am