ที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทยและเครือข่ายได้เข้ายื่นหนังสือถึงกกต . เพื่อเรียกร้องให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองและ กกต. ยึดหลักกฎหมายและหลักนิติธรมโดยเคร่งครัดในการการตัดสินใจเพื่อพิจารณา วินิจฉัยกรณีสำนวนเงิน 258 ล้านบาทที่พรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาอาจได้รับจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ด้วยความเป็นอิสระอย่างแท้จริง และเรียกร้องให้ กกต.น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ยึดหลักความยุติธรรม ในการพิจารณาคดี
ทั้ง นี้ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า กกต.ใช้มาตรฐานที่ต่างจากการยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคมัชฌิมาธิปไตย และ พรรคชาติไทย โดยคดีนี้เป็นการพิจารณาที่ยืดเยื้อที่สุด ตั้งแต่ต้นปี 2552 และยังเลื่อนไปจนถึงต้นปี 2553 โดย กกต. ใช้กฎหมายในการเตะถ่วงคดี ขณะที่ 3 กกต.ก็ยังแทงกั๊กกันอยู่ว่าจะตัดสินอย่างไร หรือแม้แต่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ที่ให้สัมภาษณ์ข้อกฎหมายก็ยังกลับไปกลับมาไม่เหมือนกัน2ครั้ง รวมถึงกกต.ก็เสียงแตก เอกภาพในกกต.ไม่มี เรื่องนี้คงเป็นหนังชีวิตที่ยาว นายอภิชาตต้องตอบสังคมให้ได้
"แม้ กกต. จะยุบพรรคประชาธิปัตย์ ผมก็ไม่ได้มีความสุขหรือสะใจแต่เราต้องการให้มีสันติสุขกลับคืนมาจากการ บังคับใช้กฎหมายที่เท่าเทียมกัน แต่ที่ผมมายื่นหนังสือก็หวังที่จะกระตุ้นต่อมสำนึกของ กกต. ดังนั้น หาก กกต. ไม่ดำเนินการให้ถูกต้องหรือยุบพรรคประชาธิปัตย์ พรรคฝ่ายค้านก็จะเข้าชื่อ 1 ใน 4 ของสมาชิกส.ส.เท่าที่มีอยู่ เพื่อยื่นถอดถอน กกต.ต่อวุฒิสภาตามมาตรา 270 แห่งรัฐธรรมนูญ" นายพร้อมกล่าวและว่า วันนี้ประธานกกต.ไม่ได้แค่รับเผือกร้อนแต่เป็นการรับระเบิดลูกใหญ่ และการที่ประธานกกต.ระบุว่าจะขอข้อมูลในการอภิปรายเพิ่มเติมนั้น ก็เป็นการเตะถ่วงเพราะเอกสารที่ดีเอสไอยื่นมาให้นั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้ว เรื่องนี้เป็นการพยายามหาทางออกโดยใช้ช่องทางของกฎหมายเป็นเรื่องของการซื้อ เวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต. เคยชี้แจงข้อกฎหมายที่ใช้ระหว่างการยุบพรรคกรณีทุจริตเลือกตั้งกับเงิน บริจาคนั้นต่างกัน นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า กกต.พยายามใช้กฎหมายเลี่ยงบาลี หลักการกกต.เมื่อมีอนุกรรมการวินิจฉัยฯก็ชัดเจนกว่าชัดเจนกว่าการยุบพรรคที่ ผ่านมา รวมถึงการมีองค์กรอิสระอย่างดีเอสไอ มาทำสำนวน ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นคดีอาญาไปแล้ว ถ้ากกต.บอกไม่ยุบ แต่ดีเอสไอ ดำเนินคดีอาญากับบริษัททีพีไอฯ แล้วกกต.จะเอาหน้าไปไว้ไหน อยากให้ไปดูมาตรฐานของนายวิสุทธิ์ โพธิแท่น กกต. ว่าเป็นอย่างไร