การเปลี่ยนแนวร่วม ดันให้เรื่องที่แอบแฝงอยู่ในวิกฤติการเมืองไทย ถลำลึกลงไป
เมื่อ
เดือนที่แล้ว
เราได้เสนอบทความเรื่องการร่วมวางแผนของราชวงศ์ในประเทศไทยในอินไซด์สตอรี่
เราคิดว่าราชวงศ์ได้นำตัวเข้าไปพัวพันในความขัดแย้งของการเมืองไทย
ซึ่งนำความสั่นสะเทือนให้กับประเทศไทยในระยะสามปีที่ผ่านมา
การร่วมวางแผนของราชวงศ์ขณะนี้กำลังเข้มข้นด้วยการเคลื่อนไหวที่เกินคาดหมาย
เช้า
ตรู่ของวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ สนธิ ลิ้มทองกุล
อภิมหาสื่อและแกนนำผู้ประท้วงเสื้อเหลืองได้เดินทางโดยรถยนต์ในกรุงเทพ
รายละเอียดที่เกิดขี้นต่อจากนั้นยังคงไม่ปะติดปะต่อ
รถยนต์ของสนธิได้ถูกกระหน่ำยิงจนพรุน
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นการลอบสังหารที่ไร้ฝีมืออย่างน่าขบขัน
หรือความพยายามที่จะการสร้างสถานการณ์ก็ตาม
สนธิรอดตายไม่มีแม้แต่รอยแมวข่วน มีแต่เพียงเศษกระสุนค้างอยู่ในกะโหลก
สนธิ
ได้ใช้ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทบทวนว่า ควรจะเปิดปากพูดว่าเกิดอะไรขี้น
ตั้งแต่ได้ถูกรีบพาเข้าโรงพยาบาล และเรื่องที่มีการ เดาไปต่างๆนานาว่า
ใครเป็นคนสั่ง “ฆ่า”
อดีต
นายกรัฐมนตรีทักษิณ
ชินวัตรและผู้สนับสนุนเสื้อแดงของเขาเป็นเป้าหมายแรกที่ถูกต้องสงสัย
จากการประท้วงบนท้องถนนที่แยกฝ่ายด้วยสีที่ใส่เมื่อไม่นานมานี้
ทักษิณได้โจมตีเสื้อเหลืองฝ่ายสนธิ
ทักษิณและสนธิในครั้งหนึ่งได้เคยร่วมงานทางธุรกิจและเกิดการขัดแย้งกันจนถึง
ขั้นไม่เผาผี การประท้วงต่อต้านทักษิณที่นำโดยสนธิได้ทวีความรุนแรงขี้น
จนนำไปสู่การรัฐประหารในเดือนกันยายน ๒๕๔๙
หลังจากการทำรัฐประหาร
แล้ว ได้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐
นักการเมืองฝ่ายทักษิณได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศอีกครั้ง
สนธินำผู้สนับสนุนของเขาทำการประท้วงบนท้องถนนในกรุงเทพ
มีการปลุกปั่นโจมตีรัฐบาลตลอดทั้งปี ๒๕๕๑
และทวีความรุนแรงขี้นเรื่อยๆจนถึงขั้นบุกยึดสนามบินนานาชาติในกรุงเทพ
และขับไล่นายกรัฐมนตรีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของทักษิณให้ออกจากตำแหน่ง
สนธิระดมกำลังจากสถาบันการเงินที่สำคัญ จากสื่อ
และจากผู้มีอิทธิพลทางการเมือง
โหมรณรงค์ระรอกแล้วระลอกเล่าโจมตีฝ่ายทักษิณและชาวเสื้อแดง
ดังนั้น
ทักษิณก็มีเหตุจูงใจ
แต่ความน่าเชื่อถือว่าทักษิณอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนี้เพียงไม่กี่วันก็
ตกไป แต่มีข้อสันนิษฐานที่น่าติดตามโผล่ออกมาใหม่
ตัวสนธิเองที่ออกมาปฎิเสธว่าทักษิณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ได้ชี้นิ้วไปยัง “บรรดาทหารที่มีอิทธิพล”
จากการเปิดให้สื่อสัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังจากถูกลอบสังหาร สนธิได้ระบุว่า
ด้วยสภาพการเมืองที่เป็นสูญญากาศหลังจากทักษิณถูกปล้นอำนาจแล้วนั้น มี “ใครบางคน”
หวังว่าจะเข้ามาแทนที่ สนธิได้เปิดฉากใหม่ในการดิ้นรนทางการเมือง
และเป็นที่น่ากังขาว่าจะยังมีผู้หนุนหลังเหลืออยู่หรือไม่ “ถ้าผมถูกฆ่า
นั่นก็หมายความว่า (นายกรัฐมนตรี) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นเป้าหมายคนต่อไป ในประเทศนี้คนไหนที่มีอาวุธจะทำอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงว่าเมืองไทยจะอยู่รอดได้อย่างไร”
ไม่
มีใครเชื่อว่าบรรดา “บุคคลที่มีอาวุธ” จะทำงานโดยลำพัง
มีการพูดเป็นนัยว่ามีคนระดับสูงหนุนหลังอยู่
สนธิได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนว่า
“ผมสงสัยว่าอาจมีการสมรู้ร่วมคิดของผู้มีอำนาจ”
มีการเดากันไปต่างๆนาๆ และมีการกระซิบกระซาบว่าใครคือบุคคลดังกล่าว เป็น
เรื่องไม่น่าเชื่อที่ทางราชวังเองถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับข่าวลือ
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้มีการรายงานข่าวในสื่อของทั้งไทยและเทศอย่างแพร่หลาย
ว่า ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล สุภาพสตรีผู้ใกล้ชิดกับราชินีสิริกิติ์
ได้ปฎิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการลอบสังหารสนธิ
หนังสือพิมพ์ของสำนักพิมพ์หนึ่งได้บรรยายท่านผู้หญิงว่ามีตำแหน่งเป็นนาง
สนองพระโอษฐ์
การออกโรงปฎิเสธของท่านผู้หญิงนี้รังแต่จะสร้างเรื่องนินทาได้อย่างไม่จบไม่
สิ้น โดยเฉพาะในขณะนี้ ท่านผู้หญิงได้กล่าวเป็นนัยว่า
มีข้าราชบริพารท่านอื่นที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ
อาจจะเป็นเป้าหมายตัวจริงของกรมข่าวลือนั้น
ราชวังพยายามที่จะถอยออกมาให้พ้นกับการเปิดเผยที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
โดยการยืนยันว่าท่านผู้หญิงไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในราชวงศ์
ตั้งแต่
การทำรัฐประหารซึ่งปล้นรัฐบาลทักษิณ
ผู้ใกล้ชิดราชวังอีกหลายท่านได้ถูกดึงเข้ามาพัวพันกับความขัดแย้งที่เพิ่ม
ขี้นในการดิ้นรนทางการเมือง เมื่อเดือนที่แล้ว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
ทั้งคู่เป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจด้วยตำแหน่งองคมนตรีในกษัตริย์ภูมิพล
ได้ถูกดึงเข้าสู่การขัดแย้งทางการเมืองต่อสาธารณะ
เป็นเวลานานมาแล้วที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ข่าวลือ
ที่ว่าบุคคลทั้งสองได้ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเสื้อเหลืองของสนธิ
ราชินีสิริกิติ์ก็ทรงเป็นผู้ให้การสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อเสื้อเหลือง แต่
ณ เวลานี้
ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพระองค์ยังคงทรงโปรดปรานเสื้อเหลืองอยู่อีกหรือไม่
ความ
สำเร็จในอดีตของสนธิและเสื้อเหลืองส่วนสำคัญมาจากการหนุนหลังของบุคคลระดับ
สูง ซึ่งตระเตรียมแผนการเคลื่อนไหวในทางการเมืองของเขา
ขณะนี้กำลังที่เคยหนุนหลังได้ถูกทบทวนใหม่ เนื่องจากการรอดชีวิตของสนธิ
ถ้าพวกเสื้อเหลืองที่ตายยากอย่างสนธิพบว่า ตัวเองไม่มีความปลอดภัยเสียแล้ว
และไม่สามารถพึ่งเพื่อนเก่าทั้งหลายได้อีกต่อไป
แผนการณ์ที่น่ากลัวยิ่งกว่าอาจจะเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
แอนดรูว์ วอคเกอร์ และ นิโคลาส ฟาร์เรลลี่
หมายเหตุ
แอนดรูว์ วอคเกอร์ และ นิโคลาส ฟาร์เรลลี่ เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางด้านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของ วิทยาลัยเอเซียและแปซิฟิก มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ “นิว แมนดาลา” ในปี ๒๕๔๙ ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับกิจกรรมของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา : Liberal Thai : แผนการณ์ร่วมของราชวงศ์ กำลังเข้มข้น
เมื่อ
เดือนที่แล้ว
เราได้เสนอบทความเรื่องการร่วมวางแผนของราชวงศ์ในประเทศไทยในอินไซด์สตอรี่
เราคิดว่าราชวงศ์ได้นำตัวเข้าไปพัวพันในความขัดแย้งของการเมืองไทย
ซึ่งนำความสั่นสะเทือนให้กับประเทศไทยในระยะสามปีที่ผ่านมา
การร่วมวางแผนของราชวงศ์ขณะนี้กำลังเข้มข้นด้วยการเคลื่อนไหวที่เกินคาดหมาย
เช้า
ตรู่ของวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๒ สนธิ ลิ้มทองกุล
อภิมหาสื่อและแกนนำผู้ประท้วงเสื้อเหลืองได้เดินทางโดยรถยนต์ในกรุงเทพ
รายละเอียดที่เกิดขี้นต่อจากนั้นยังคงไม่ปะติดปะต่อ
รถยนต์ของสนธิได้ถูกกระหน่ำยิงจนพรุน
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเป็นการลอบสังหารที่ไร้ฝีมืออย่างน่าขบขัน
หรือความพยายามที่จะการสร้างสถานการณ์ก็ตาม
สนธิรอดตายไม่มีแม้แต่รอยแมวข่วน มีแต่เพียงเศษกระสุนค้างอยู่ในกะโหลก
สนธิ
ได้ใช้ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาทบทวนว่า ควรจะเปิดปากพูดว่าเกิดอะไรขี้น
ตั้งแต่ได้ถูกรีบพาเข้าโรงพยาบาล และเรื่องที่มีการ เดาไปต่างๆนานาว่า
ใครเป็นคนสั่ง “ฆ่า”
อดีต
นายกรัฐมนตรีทักษิณ
ชินวัตรและผู้สนับสนุนเสื้อแดงของเขาเป็นเป้าหมายแรกที่ถูกต้องสงสัย
จากการประท้วงบนท้องถนนที่แยกฝ่ายด้วยสีที่ใส่เมื่อไม่นานมานี้
ทักษิณได้โจมตีเสื้อเหลืองฝ่ายสนธิ
ทักษิณและสนธิในครั้งหนึ่งได้เคยร่วมงานทางธุรกิจและเกิดการขัดแย้งกันจนถึง
ขั้นไม่เผาผี การประท้วงต่อต้านทักษิณที่นำโดยสนธิได้ทวีความรุนแรงขี้น
จนนำไปสู่การรัฐประหารในเดือนกันยายน ๒๕๔๙
หลังจากการทำรัฐประหาร
แล้ว ได้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ๒๕๕๐
นักการเมืองฝ่ายทักษิณได้รับเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศอีกครั้ง
สนธินำผู้สนับสนุนของเขาทำการประท้วงบนท้องถนนในกรุงเทพ
มีการปลุกปั่นโจมตีรัฐบาลตลอดทั้งปี ๒๕๕๑
และทวีความรุนแรงขี้นเรื่อยๆจนถึงขั้นบุกยึดสนามบินนานาชาติในกรุงเทพ
และขับไล่นายกรัฐมนตรีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของทักษิณให้ออกจากตำแหน่ง
สนธิระดมกำลังจากสถาบันการเงินที่สำคัญ จากสื่อ
และจากผู้มีอิทธิพลทางการเมือง
โหมรณรงค์ระรอกแล้วระลอกเล่าโจมตีฝ่ายทักษิณและชาวเสื้อแดง
ดังนั้น
ทักษิณก็มีเหตุจูงใจ
แต่ความน่าเชื่อถือว่าทักษิณอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารนี้เพียงไม่กี่วันก็
ตกไป แต่มีข้อสันนิษฐานที่น่าติดตามโผล่ออกมาใหม่
ตัวสนธิเองที่ออกมาปฎิเสธว่าทักษิณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ได้ชี้นิ้วไปยัง “บรรดาทหารที่มีอิทธิพล”
จากการเปิดให้สื่อสัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังจากถูกลอบสังหาร สนธิได้ระบุว่า
ด้วยสภาพการเมืองที่เป็นสูญญากาศหลังจากทักษิณถูกปล้นอำนาจแล้วนั้น มี “ใครบางคน”
หวังว่าจะเข้ามาแทนที่ สนธิได้เปิดฉากใหม่ในการดิ้นรนทางการเมือง
และเป็นที่น่ากังขาว่าจะยังมีผู้หนุนหลังเหลืออยู่หรือไม่ “ถ้าผมถูกฆ่า
นั่นก็หมายความว่า (นายกรัฐมนตรี) อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเป็นเป้าหมายคนต่อไป ในประเทศนี้คนไหนที่มีอาวุธจะทำอะไรก็ได้โดยไม่คำนึงว่าเมืองไทยจะอยู่รอดได้อย่างไร”
ไม่
มีใครเชื่อว่าบรรดา “บุคคลที่มีอาวุธ” จะทำงานโดยลำพัง
มีการพูดเป็นนัยว่ามีคนระดับสูงหนุนหลังอยู่
สนธิได้ประกาศไว้อย่างชัดเจนว่า
“ผมสงสัยว่าอาจมีการสมรู้ร่วมคิดของผู้มีอำนาจ”
มีการเดากันไปต่างๆนาๆ และมีการกระซิบกระซาบว่าใครคือบุคคลดังกล่าว เป็น
เรื่องไม่น่าเชื่อที่ทางราชวังเองถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับข่าวลือ
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้มีการรายงานข่าวในสื่อของทั้งไทยและเทศอย่างแพร่หลาย
ว่า ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล สุภาพสตรีผู้ใกล้ชิดกับราชินีสิริกิติ์
ได้ปฎิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการลอบสังหารสนธิ
หนังสือพิมพ์ของสำนักพิมพ์หนึ่งได้บรรยายท่านผู้หญิงว่ามีตำแหน่งเป็นนาง
สนองพระโอษฐ์
การออกโรงปฎิเสธของท่านผู้หญิงนี้รังแต่จะสร้างเรื่องนินทาได้อย่างไม่จบไม่
สิ้น โดยเฉพาะในขณะนี้ ท่านผู้หญิงได้กล่าวเป็นนัยว่า
มีข้าราชบริพารท่านอื่นที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ
อาจจะเป็นเป้าหมายตัวจริงของกรมข่าวลือนั้น
ราชวังพยายามที่จะถอยออกมาให้พ้นกับการเปิดเผยที่ก่อให้เกิดความเสียหาย
โดยการยืนยันว่าท่านผู้หญิงไม่ได้มีตำแหน่งใดๆในราชวงศ์
ตั้งแต่
การทำรัฐประหารซึ่งปล้นรัฐบาลทักษิณ
ผู้ใกล้ชิดราชวังอีกหลายท่านได้ถูกดึงเข้ามาพัวพันกับความขัดแย้งที่เพิ่ม
ขี้นในการดิ้นรนทางการเมือง เมื่อเดือนที่แล้ว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และ
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์
ทั้งคู่เป็นบุคคลผู้ทรงอำนาจด้วยตำแหน่งองคมนตรีในกษัตริย์ภูมิพล
ได้ถูกดึงเข้าสู่การขัดแย้งทางการเมืองต่อสาธารณะ
เป็นเวลานานมาแล้วที่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ข่าวลือ
ที่ว่าบุคคลทั้งสองได้ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวของเสื้อเหลืองของสนธิ
ราชินีสิริกิติ์ก็ทรงเป็นผู้ให้การสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อเสื้อเหลือง แต่
ณ เวลานี้
ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพระองค์ยังคงทรงโปรดปรานเสื้อเหลืองอยู่อีกหรือไม่
ความ
สำเร็จในอดีตของสนธิและเสื้อเหลืองส่วนสำคัญมาจากการหนุนหลังของบุคคลระดับ
สูง ซึ่งตระเตรียมแผนการเคลื่อนไหวในทางการเมืองของเขา
ขณะนี้กำลังที่เคยหนุนหลังได้ถูกทบทวนใหม่ เนื่องจากการรอดชีวิตของสนธิ
ถ้าพวกเสื้อเหลืองที่ตายยากอย่างสนธิพบว่า ตัวเองไม่มีความปลอดภัยเสียแล้ว
และไม่สามารถพึ่งเพื่อนเก่าทั้งหลายได้อีกต่อไป
แผนการณ์ที่น่ากลัวยิ่งกว่าอาจจะเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
แอนดรูว์ วอคเกอร์ และ นิโคลาส ฟาร์เรลลี่
หมายเหตุ
แอนดรูว์ วอคเกอร์ และ นิโคลาส ฟาร์เรลลี่ เป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษทางด้านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของ วิทยาลัยเอเซียและแปซิฟิก มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย และเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ “นิว แมนดาลา” ในปี ๒๕๔๙ ซึ่งเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับกิจกรรมของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ที่มา : Liberal Thai : แผนการณ์ร่วมของราชวงศ์ กำลังเข้มข้น